กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงในปีก่อนหน้า ซึ่งมากพอที่จะชดเชยการปรับตัวลงอันเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19
ยอดการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปอยู่ที่ 278,718 เยน (2,700 ดอลลาร์) ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนต.ค.
ก่อนหน้านี้ยอดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 12 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนก.ย. โดยมีสาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีบริโภคจาก 8% เป็น 10% เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิครั้งที่แล้ว
เจ้าหน้าที่จากทางกระทรวงแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า “สินค้าบางประเภทมีการบริโภคเพิ่มขึ้น (หลังร่วงลงในปีก่อนจากการขึ้นภาษี) แต่ในขณะเดียวกัน ยอดการใช้จ่าย เช่น การทานอาหารนอกบ้าน ปรับตัวลดลงมากขึ้นเมื่ออัตราการติดไวรัสยังเพิ่มขึ้น”
เมื่อแยกตามหมวดแล้ว ยอดการใช้จ่ายของผู้ที่อยู่แต่ในบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณูปโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ภายในบ้านเพิ่มขึ้น 10.8% ขณะที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร เช่น เนื้อสัตว์และผักสำหรับประกอบอาหารที่บ้านก็เพิ่มขึ้น 1.7%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นมาตรวัดหลักอย่างหนึ่งเพื่อใช้วัดการบริโภคภาคเอกชน และคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 64)
Tags: ญี่ปุ่น, ภาคครัวเรือน, เศรษฐกิจญี่ปุ่น