ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 257.86 จุด รับไบเดนนั่งปธน.สหรัฐอย่างเป็นทางการ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) หลังจากนายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าคณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร นำโดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่ทะยานขึ้นเกือบ 17% หลังบริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2563

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,188.38 จุด เพิ่มขึ้น 257.86 จุด หรือ +0.83%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,851.85 จุด เพิ่มขึ้น 52.94 จุด หรือ +1.39%
  • และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,457.25 จุด เพิ่มขึ้น 260.07 จุด หรือ +1.97%

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ หลังจากนายไบเดนได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย พร้อมกับกล่าวสุนทรพจน์ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า “เอกภาพเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสหรัฐ หากไม่มีเอกภาพ ก็จะไม่มีสันติภาพ เราจะต้องยุติสงครามที่ป่าเถื่อนที่ทำให้พรรครีพับลิกันเป็นศัตรูกับเดโมแครต ชนบทต่อสู้กับเมือง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่อสู้กับฝ่ายเสรีนิยม นี่เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ แห่งวิกฤตการณ์และความท้าทาย และเอกภาพคือแนวทางของเรา โดยเราจะเผชิญช่วงเวลานี้ด้วยกันในฐานะสหรัฐอเมริกา”

การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายไบเดนทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า คณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่นายไบเดนได้นำเสนอมาตรการ “American Rescue Plan” วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, การเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยจะขยายโครงการช่วยเหลือดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารพุ่งขึ้น 3.62% โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ธุรกิจในภาคส่วนดังกล่าวจะได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องอยู่บ้านเนื่องจากไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด

ทั้งนี้ หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 16.85% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ 6.64 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2563 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.62 พันล้านดอลลาร์ และเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8.5 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5 ล้านราย

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารนั้น หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.44% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.29% หุ้นอัลฟาเบท ทะยานขึ้น 5.36% หุ้นแอมะซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 4.57% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.65%

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ขยับลง 0.24% แม้ธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 ที่ระดับ 1.81 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.27 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 5.5% หลังมีรายงานว่านายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ปรากฎตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังจากที่หลายฝ่ายต่างพากันสงสัยเกี่ยวกับชะตากรรมของนายหม่า ภายหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับธุรกิจในอาณาจักรของอาลีบาบา

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top