เงินบาทเปิด 29.95/98 ต่อดอลล์ ตลาดรอดูทิศทางเศรษฐกิจจาก กนง.พรุ่งนี้ ให้กรอบ 29.95-30.10

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.95/98 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.97 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้เล็กน้อย จากแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐที่อาจปรับตัวแข็งค่าขึ้น เนื่องจากมีแรงหนุนจากมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว รวมทั้งคาดว่าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชนจะเป็นไปได้ตามกำหนดที่วางไว้

อย่างไรก็ดี ในบ้านเราช่วงนี้ตลาดรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ ว่าจะมีการออกมาให้ความเห็นต่อทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้อย่างไรด้วย หลังจากมีการระบาดของไวรัสโควิดรอบใหม่ในประเทศ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95 – 30.10 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (1 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.29205% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31777%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.85/88 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 104.85 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2078/80 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.2091 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 29.925 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท.ชี้ผลสำรวจแนวโน้มปล่อยกู้ไตรมาสแรกคาดแบงก์เข้มปล่อยกู้ธุรกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ และภาคธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารจากผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ขณะที่ด้านครัวเรือนคาดมีความต้องการสินเชื่อเพิ่ม โดยเฉพาะบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อบริหารสภาพคล่อง
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะได้ข้อสรุปมาตรการแจกเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 เร็วๆ นี้ ซึ่งจะต้องใช้ฐานข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม มาพิจารณาทั้งหมดว่า จะต้องช่วยเหลือแรงงานในกลุ่มใดบ้าง และรูปแบบการจ่ายเงินเยียวยาจะเป็นในลักษณะเดียวกันมาตรการเราชนะ ที่โอนวงเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเราชนะ แต่รายละเอียดกำลังหารือกันต่อ ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ส่วนการหารือหอการค้าไทยทราบว่า ขณะนี้ธรุกิจโรงแรมเริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่อง
  • ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราชนะ” บนวอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) ในรอบนี้ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากผลตอบแทนน่าสนใจ ประชาชนคุ้นเคยกับแอปพลิเคชันเป๋าตังมากขึ้น เป็นช่องทางการลงทุนที่สะดวกในยุคโควิด โดยจำหน่ายได้ครบ 5,000 ล้านบาท ภายใน 8 ชั่วโมง
  • ประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ว่าในปี 2564 แผนส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยร่วมมือกับทั้งสำนักงานอีอีซี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายการลงทุนในปีนี้ไว้ 3 แสนล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50% เทียบจากปี 2563
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังหารือ ร่วมกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังว่า ได้เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม พร้อมกับยกเลิกการใช้มาตรการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (แอลทีวี) เป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้มากขึ้น นอกจากนี้ ขอให้นำโครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่งช่วยเหลือค่าผ่อนดาวน์ 50,000 บาท ให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยหลังใหม่ รวมทั้งความชัดเจนเรื่องแนวทางโกดังเก็บหนี้ด้วย ซึ่ง รมว.คลัง รับปากว่าภายใน 2 สัปดาห์ จะทราบความคืบหน้ารายละเอียดแนวทางว่าเป็นอย่างไรบ้าง
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 5.1% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.1% โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐภายใต้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวมากขึ้น
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 57.1 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนี PMI เดือนม.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในเดือนพ.ค.2550
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2545 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9% หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ย.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว และสหรัฐมีความสามารถที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ตามเป้าขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากเยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกทรุดตัวลงในเดือนธ.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากราคาสัญญาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อย
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.
  • นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทำเนียบขาว โดยรายงานล่าสุดระบุว่า วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน 10 คนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงจากระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (2 ก.พ. 64)

Tags: , , ,
Back to Top