FETCO เตือนนักลงทุนไทยอย่าหลงกระแส GameStop อาจเกิดความเสียหาย

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า นักลงทุนไทยควรจะมองปรากฎการณ์ GameStop ในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นกรณีศึกษา โดยราคาหุ้น GameStop ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากการรวมตัวเข้าซื้อของนักลงทุนรายย่อย หรือ กลุ่ม Wall Street Bet ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Reddit หลังจากนักลงทุนสถาบันขายชอร์ตจำนวนมาก

กรณีดังกล่าวนักลงทุนต้องพิจารณาว่าหากคิดจะทำในลักษณะเดียวกันคงต้องศึกษาพื้นฐานของหุ้นให้ดี ไม่ใช่รวมตัวกันแล้วทำตามกระแสเหมือนในต่างประเทศ เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการลงทุนได้ เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาจะต้องอาศัยพื้นฐานประกอบด้วย

อย่างไรก็ตาม มองว่าหน่วยงานด้านตลาดทุนของไทยคงจะยังไม่มีการพิจารณาออกกฎเกณฑ์ใด ๆ มาควบคุมการขายชอร์ต แต่หากพบว่ามีการปั่นราคาหุ้น หรือมีการกระทำที่อาจจะออกไปในแนวทางดังกล่าวได้ ก็เชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีกฎหมายสนมือพร้อมรับมือได้อยู่แล้ว

“อย่าซื้อตามกระแส เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปมาจากการรวมตัวกันซื้อ และถ้าเราเข้าไปและเป็นคนสุดท้ายที่ติดอยู่ตรงนั้นก็จะเป็นปัญหาได้”

นายไพบูลย์ กล่าว

ส่วนการทำรัฐประหารในประเทศเมียนมา นายไพบูลย์ มองว่าคงไม่ได้กระทบกับดัชนีตลาดทุนไทย และภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) มากนัก เนื่องด้วยมีบริษัทจดทะเบียนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจในเมียนมาไม่มากนัก คิดเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยมากหากเทียบกับ บจ.ทั้งหมดในตลาด สำหรับธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในเมียนมา โดยเฉพาะ พลังงานและก๊าซนั้น เชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศก็น่าจะมีการดำเนินงานต่อเนื่อง แต่บริษัทที่น่าจะได้รับผลกระทบ คือ ธุรกิจเครื่องดื่ม และอุปโภคบริโภค เพราะมองว่าระยะนี้การจับจ่ายใช้สอยในเมียนมาจะปรับตัวลดลง

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายดัชนี SET ปี 64 ไว้ที่ 1,600 จุด ซึ่งน่าจะเห็นได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากข่าวดีในเรื่องของวัคซีนต้านโควิด-19, ผลประกอบการของ บจ.ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน และกระแสเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจ (GDP) คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่น่าจะกลับมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/64 คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 2 ล้านคน และในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากมีวัคซีน จากนั้นจะกลับมาสู่ระดับปี 62 ที่ 40 ล้านคนได้ในระยะถัดไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top