สิงคโปร์ได้อนุมัติกฎหมายที่จะอนุญาตให้รัฐบาลใช้ข้อมูลในการติดตามผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในการสืบสวนคดีอาชญากรรมบางประเภทได้
รายงานระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์เปิดตัวเทคโนโลยี TraceTogether เมื่อปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนแรกๆ ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสัญญาว่าจะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่ามีการใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบสวนคดีฆาตกรรม พร้อมกับเสริมว่ารัฐบาลได้วางแผนที่จะออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนความพยายามดังกล่าว
กฎหมายฉบับใหม่นี้จะอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลการติดตามตัวผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในการทำคดีอาชญากรรมร้ายแรง 7 ประเภทรวมถึง การฆาตกรรม การข่มขืน และการค้ายาเสพติด นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงระบบติดตามอื่นๆ เช่น SafeEntry ซึ่งเป็นระบบเช็กอินทางดิจิทัล ซึ่งบันทึกข้อมูลของผู้ที่เข้าและออกจากสถานที่ต่างๆ
“นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดาและเป็นสถานการณ์ยกเว้น” นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์กล่าว พร้อมเสริมว่า “เราจะออกกฎหมายฉบับนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อขจัดข้อสงสัยของชาวสิงคโปร์ และเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าข้อมูลจะได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่เหมาะสมเท่านั้น ขณะที่เราอาจจะยังคงให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับโรคระบาดต่อไป”
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกโจมตีอย่างมาก โดยนักวิจารณ์บางคนระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลสิงคโปร์อาจส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวในการเข้าร่วมโครงการติดตามตัว ซึ่งทำให้ผู้คนไม่สนใจที่จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 64)
Tags: COVID-19, วิเวียน บาลากริชนัน, สิงคโปร์, โควิด-19