ฝรั่งเศสยันไม่ฉีดวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าให้ผู้สูงวัยเกิน 65 ปี

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสได้ระบุเมื่อวานนี้ว่า ทางการฝรั่งเศสจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชาชนที่อายุน้อยกว่า 65 ปีเท่านั้น หลังจากคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่าวัคซีนดังกล่าวใช้ได้ผลในกลุ่มผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจเช่นนี้อาจทำให้ฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนแปลงแผนการฉีดวัคซีน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางการฝรั่งเศสจัดอันดับให้ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราและผู้ที่มีอายุเกิน 75 ปีเป็นกลุ่มแรกที่จะรับวัคซีนก่อน โดยได้ฝากความหวังไว้กับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลักสำหรับแผนการแจกจ่ายวัคซีนที่กำลังจะดำเนินการ แต่ทางบริษัทกลับออกมาประกาศว่าการส่งมอบวัคซีนจะเป็นไปอย่างล่าช้า จนกระทบหลายประเทศทั้งในภูมิภาคยุโรปและทั่วโลก

“เราจะไม่ฉีดวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี” นายมาครงกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ทีเอฟ 1 เมื่อคืนวันที่ 2 ก.พ. และชี้แจงว่าสำหรับวัคซีนที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น ทางการฝรั่งเศสจะนำไปฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ที่อายุน้อยกว่า 65 ปี กลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อสูง

การตัดสินใจของรัฐบาลฝรั่งเศสนั้นแตกต่างจากคำแนะนำของสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับประชากรผู้ใหญ่ชาวยุโรปทุกคนเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปไม่ได้แจกจ่ายวัคซีนให้กับประชาชนในภูมิภาคอย่างรวดเร็วมากพอ

ส่วนหน่วยงานสาธารณสุขในเยอรมนีและประเทศอื่นๆ ก็แสดงความกังวลกับกรณีที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษและสวีเดนไม่ได้ทำการทดสอบวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุมากเพียงพอจะพิสูจน์ว่าวัคซีนใช้ได้ผลดีในคนกลุ่มนี้ และไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top