เน็กซัสมองตลาดบ้านหรูยังโต-ราคาขายต่ำกว่าคอนโด ลุยจัดแคมเปญกระตุ้นดีมานด์

นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านหรูใจกลางเมืองยังคงเติบโต และมีสินค้าในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการใหม่เกิดขึ้น 56 โครงการ ซัพพลายในตลาดมีจำนวน 796 หน่วย มูลค่าตลาดมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการบ้านหรูมีทั้งรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และรายย่อยที่ต้องการทำสินค้า niche market จริงจัง

อย่างไรก็ตาม โครงการประเภทนี้แต่ละโครงการมีขนาดไม่ใหญ่ และสัดส่วนกำไรเมื่อเทียบกับต้นทุนค่าดำเนินการ (soft cost) ไม่สูงมาก การพัฒนาโครงการดังกล่าวจึงดึงดูดใจผู้ประกอบการรายย่อยได้มากกว่า ซึ่งโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดมีสัดส่วนเป็น 39% ของอุปทานทั้งหมด

ด้านทำเลที่ตั้งของโครงการบ้านหรูนั้นจะมีความสะดวกสบายอยู่ในเมือง โดย 90% ของซัพพลายอยู่ในโซนที่เชื่อมต่อกับใจกลางเมือง มีการเดินทางสะดวกและคล่องตัว ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าหรือขนส่งสาธารณะ ทำเลที่มีบ้านมากที่สุดคือ เอกมัย-รามอินทรา รองลงมาเป็นสาทร-พระราม 3 และสุขุมวิท อีกทั้งยังขยายออกไปในย่านรัชดา-ลาดพร้าวตอนต้น และพหลโยธินด้วย ซึ่งส่วนใหญ่โครงการจะอยู่ในซอยย่อยที่สามารถเดินทางเข้าออกสะดวก โดยที่ดินนั้นอาจมีข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลทำให้ราคาที่ดินต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียง ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบทางการตลาดจากศักยภาพที่ดินที่ต่างกัน

สำหรับราคาขายบ้านเดี่ยวหรูจะมีระดับราคาต่อหน่วยแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ทำเลที่ตั้ง ขนาดของที่ดิน ขนาดบ้าน และวัสดุที่ใช้ในโครงการ ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ระดับราคา 20-100 ล้านบาทขึ้นไป และสัดส่วนการพัฒนาโครงการบ้านประเภทนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 30-50 ล้านบาท และ 20-30 ล้านบาท โดยการเปรียบเทียบราคาบ้านในกลุ่มนี้ได้ดีที่สุด คือ เปรียบเทียบกับราคาคอนโดมิเนียม โดยที่บ้านหรูจะมีราคาต่อตารางเมตรในแต่ละทำเลถูกกว่าคอนโดอย่างน้อย 3 เท่า และส่วนใหญ่ราคาต่อต่อรางเมตรจะต่ำกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตร ถูกกว่าคอนโดมิเนียมอย่างชัดเจน

“บ้านบริเวณสาทร ถ้าคอนโดซูเปอร์ลักซูรี่ ก็ราคาเฉลี่ย 293,000 บาท/ตารางเมตร ในขณะที่บ้านราคาคิดเป็นตารางเมตรอยู่ที่ 78,000 บาท จะเห็นได้ว่าในงบประมาณ 50 ล้านบาท อาจจะได้คอนโดเพนท์เฮาส์ 200 ตารางเมตร เปรียบเทียบกับบ้านที่ได้ทั้งบ้านพร้อมที่ดินที่ใหญ่กว่า 700 ตารางเมตร ทำให้ราคาขายบ้านหรูมีความน่าสนใจกว่าคอนโดมิเนียมอย่างมาก”

นางนลินรัตน์ กล่าว

ส่วนความต้องการบ้านหรูในตลาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งจะมาจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยระดับบน จากคอนโดมิเนียมเป็นบ้านใจกลางเมือง แต่ยังคงความสะดวกสบายและหรูหรา เหมือนใช้ชีวิตในตึกสูง ขณะเดียวกัน ยังได้เป็นเจ้าของที่ดินและบ้านด้วย เป็นกลุ่มที่เรียกว่า Real Demand ซึ่งปกติการขายบ้านประเภทนี้อาจไม่ได้รวดเร็วมากนัก โดยมีระยะเวลาการขายเฉลี่ยแต่ละโครงการอยู่ที่ 2-3 ปี และมียอดขายเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 53% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดขายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับราคา เมื่อเปรียบเทียบกับทำเลที่เหมาะสม ความสะดวกสบายของทำเลเมื่อเทียบกับราคา และคุณภาพของสินค้าโดยรวม

ขณะที่คุณภาพของสินค้าของโครงการบ้านหรูในทำเลกลางเมืองนั้นลุกค้าให้ความเป็นส่วนตัวมาก (Privacy) เพราะส่วนใหญ่จะมีจำนวนหน่วยไม่มากในแต่ละโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ไม่ต้องใช้ร่วมกับใครมากนัก และมีขอบเขตบ้านที่ชัดเจน และโครงการยังมีความแตกต่างในงานออกแบบ และมีจำนวนหน่วยไม่มาก หากซื้อบ้านหรูก็เปรียบเหมือนได้ของสะสมที่หายาก ทั้งในแง่ของดีไซน์มีพื้นที่ใช้สอยมาก คุ้มค่า มีพื้นที่สีเขียวขนาดกะทัดรัด มีสระว่ายน้ำส่วนตัว บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอยู่บ้านในเมืองอย่างแท้จริง

รวมทั้งการมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมงานอดิเรก มีความเป็นส่วนตัว สะท้อนตัวตนของผู้อยู่หรือเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน ซึ่งการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นและการตกแต่งต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพึงพอใจของผู้บริโภค โดยที่วัสดุมาตรฐานและอุปกรณ์ตกแต่งที่ทางโครงการเตรียมให้ (specification) รายละเอียดของวัตถุดิบต่างๆ ยังเพิ่มความหรูหรา และตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดีและใช้งานได้จริง

สำหรับในแง่ของการลงทุนนั้นบ้านหรูเป็นสินค้าที่แตกต่างและมีจำนวนจำกัด โครงการไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางมาก ทำให้ลูกบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลส่วนกลางได้มากขึ้น ประกอบกับตัวโครงการตั้งอยู่ทำเลในเมือง ได้ที่ดินเป็นของตัวเอง โอกาสในการปรับตัวของราคาสูงขึ้นในอนาคตมีมาก โดยเฉพาะจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงนับเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้ทั้งไลฟ์สไตล์ และผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว

จากความน่าสนใจของตลาดบ้านหรูใจกลางเมือง บริษัทจึงมองเห็นโอกาสที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าบ้านหรูได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการที่แท้จริง ทั้งในแง่ของงบประมาณและไลฟ์สไตล์ ในขณะที่ผู้ขายก็มีโอกาสขายสินค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทได้จัดแคมเปญ “Luxury House Grand Sale” เพื่อรวบรวมบ้านหรู Rare Item โครงการคุณภาพใจกลางเมืองกว่า 20 โครงการ มาให้เลือกช้อปแบบครบ จบที่เดียว ในราคาเริ่มต้น 22.9-70 ล้านบาท พร้อมส่วนลดและ Voucher เฟอร์นิเจอร์ตั้งแต่วันนี้–31 มี.ค. 64

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top