องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศขึ้นบัญชีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนราคาที่ค่อนข้างถูกได้
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ขณะนี้เราพร้อมที่จะแจกจ่ายวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี เรายังจำเป็นต้องเร่งการผลิต และเราขอเรียกร้องให้บรรดาผู้พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ยื่นเอกสารให้กับ WHO ได้ทำการทบทวน ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่พวกท่านยื่นต่อหน่วยงานฝ่ายกำกับดูแลในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง”
ทั้งนี้ การทบทวนของ WHO พบว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า สอดคล้องกับข้อกำหนดที่จำเป็นในด้านความปลอดภัย และผลประโยชน์ด้านประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าวก็มีมากกว่าความเสี่ยง
การอนุมัติใช้วัคซีนในครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากหน่วยงานของ WHO ได้ออกคำแนะนำชั่วคราวเกี่ยวกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าว่าสามารถใช้ในปริมาณ 2 โดส ห่างกันราว 8-12 สัปดาห์ กับประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคน และสามารถใช้ในประเทศต่างๆที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้
วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดถือเป็นวัคซีนที่ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง เนื่องจากมีราคาถูกกว่าและแจกจ่ายง่ายกว่าวัคซีนของบริษัทคู่แข่งบางรายซึ่งรวมถึงวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 64)
Tags: COVID-19, WHO, ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, ไบโอเอ็นเทค, ไฟเซอร์