JKN เป้ารายได้ธุรกิจคอนเท้นท์ปีนี้โต 10-15%, เล็งเริ่มขายสินค้ากัญชง Q4/64

นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจคอนเท้นท์ปี 64 เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.6 พันล้านบาทที่จะรับรู้ Backlog ที่มี 800 ล้านบาท ณ สิ้นปี 63 และคาดจะมียอดขายจากการจำหน่าย Consumer Product อีก 550 ล้านบาท โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)จะอยู่ที่ 45-50% จากปีก่อนอยู่ที่ 46.60% จากค่าใช้จ่ายจากค่าตัดจำหน่ายลดลง

โดยในปีนี้กรอบลงทุนซื้อคอนเท้นท์ประมาณ 800-1,000 ล้านบาทจากปีก่อนที่ใช้งบลงทุนสูงถึง 2,000 ล้านบาท จากปกติใช้ 1,000-1,200 ล้านบาท

“คาดว่าในปีนี้ ธุรกิจคอนเท้นท์ก็ยังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างดี โดยผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้จะเห็นการเติบโตรายได้ 10-15% จากแบ็คล็อกที่มีเกือบ 50%”

ส่วนรายได้จากธุรกิจ Consumer Product คาดปีนี้มียอดขาย 550 ล้านบาท โดยมี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Health and Beauty เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม น้ำหอม เป็นต้น คาดเริ่มออกจำหน่ายได้ในเดือนเม.ย.นี้ซึ่งคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 60-70% โดยคาดยอดขายปีนี้ 450 ล้านบาท และกลุ่มน้ำดื่ม ได้แก่น้ำดื่มสมุนไพร น้ำดื่มผสมวิตามิน จะเข้าช่องทาง Modern Trade เริ่มจำหน่ายประมาณ 19 เม.ย.นี้ คาดยอดขายปีนี้ที่ 100 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่ารายได้ในส่วนนี้จะเริ่มเข้ามาในไตรมาส 2/64

และในปลายปี 63 บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชงด้วยกับ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เบื้องต้นคาดว่าจะขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ในไตรมาสที่ 4/64 ซึ่งก็ต้องรอดูความชัดเจนของกฎหมายที่จะอนุญาตให้ดำเนินการได้

นอกจากนี้ JKN ได้จับมือกับช่องNew 18 ที่เป็นช่องทีวีดิจิทัลเพื่อเข้าไปเช่าเวลาและนำคอนเท้นท์ของ JKN เข้าไปออกอากาศ ซึ่งมองว่าจะสามารถหารายได้จากโฆษณาได้ซึ่งขายสินค้าของบริษัทเองด้วย หรือขายเวลาโดยตรง

นายธีรภัทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า ทางคณะกรรมการบริษัทและทีมบริหาร ได้เห็นข้อมูลแล้ว เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อหาทางแก้ไข เบื้องต้นได้รับการติดต่อจากตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้แจ้งวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง ว่าสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยภายในคณะกรรมการบริหาร เพื่อดำเนินการตามที่ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ก็ให้ชี้แจงข่าว และเบื้องต้นบริษัทยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top