ดาวโจนส์ปิดบวก 174.82 จุด รับความหวังศก.ฟื้นตัว-จับตาประชุมเฟด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจโรงแรม ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,953.46 จุด เพิ่มขึ้น 174.82 จุด หรือ +0.53%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,968.94 จุด เพิ่มขึ้น 25.60 จุด หรือ +0.65%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,459.71 จุด เพิ่มขึ้น 139.84 จุด หรือ +1.05%

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.36% โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 3.04% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น เพิ่มขึ้น 1.81% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี บวก 0.92%

หุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มเรือสำราญ และกลุ่มธุรกิจโรงแรม ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธุรกิจในภาคส่วนเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับให้คำมั่นว่าชาวอเมริกันทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 7.7% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 8.26% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ บวก 2.35% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 4.69% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 4.68% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 3.26% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพิ่มขึ้น 2.24% หุ้นเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท อินเตอร์เนชันแนล ทะยานขึ้น 5.09%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.05% หลังจากบริษัทเทสลาได้ยื่นรายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เมื่อวานนี้โดยระบุว่า ชื่อตำแหน่งอย่างเป็นทางการของนายอีลอน มัสก์ คือ “Technoking of Tesla” โดยเขาจะยังคงทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเทสลา

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.52% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.12% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 4.33%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชน ลดลง 0.45% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.77% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 0.57% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.5%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้น 5.3 จุด สู่ระดับ 17.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 15.0

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top