“ไบเดน” เผยแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลล์

ภาพ: รอยเตอร์

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานหลายล้านตำแหน่ง และมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ปธน.ไบเดนได้แถลงแผนการดังกล่าวที่หอประชุมในเมืองพิทส์เบิร์กเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (31 มี.ค.) โดยแผนการดังกล่าวครอบคลุมถึงการใช้จ่ายในระยะเวลา 8 ปีซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ และจะมีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 28% เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในโครงการดังกล่าว

ปธน.ไบเดนมองว่า แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยให้สหรัฐมีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุด, ยืดหยุ่นที่สุด และมีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ จะช่วยให้ประชาชนหลายล้านคนมีงานทำและได้ค่าตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวประกอบไปด้วย:

  • การอัดฉีดเงินมูลค่า 6.21 แสนล้านดอลลาร์ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เช่น สะพาน, ถนน, การขนส่งสาธารณะ, ท่าเรือ, ท่าอากาศยาน และการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
  • การแจกเงินโดยตรงให้กับชาวอเมริกันผู้สูงอายุและทุพพลภาพ คิดเป็นมูลค่ารวม 4 แสนล้านดอลลาร์
  • อัดฉีดเงินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงสาธารณูปโภคเกี่ยวกับน้ำดื่ม, ขยายการเข้าถึงบรอดแบรนด์ และปรับปรุงระบบการจ่ายไฟฟ้า
  • อัดฉีดเงินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่โครงการสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ควบคู่ไปกับการสร้างและปรับปรุงโรงเรียนต่างๆ
  • ลงทุนมูลค่า 5.80 แสนล้านดอลลาร์ในด้านการผลิต, งานวิจัยและพัฒนา และการฝึกฝนอาชีพให้กับชาวอเมริกัน

ในขั้นตอนแรกนั้น คณะบริหารของปธน.ไบเดนมีเป้าหมายที่จะอนุมัติแผนการที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการจ้างงาน, การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ และการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ก่อนที่จะเข้าสู่แผนการที่สองได้แก่การปรับปรุงด้านการศึกษา รวมถึงขยายการลางานที่ได้ค่าตอบแทนและการดูแลสุขภาพ

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขาจะเปิดเผยแผนฟื้นฟูส่วนที่สองในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top