CONSENSUS: โบรกฯเชียร์ ซื้อ TISCO ผลงาน Q1/64 โตจากตั้งสำรองฯลดลง-ปันผลเด่นสุดในกลุ่มฯ

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ”ซื้อ”หุ้นบมจ.ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป (TISCO) เล็งผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 เติบโตดีทั้ง yoy และ qoq จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง และการบริหารจัดการด้านต้นทุนดอกเบี้ยช่วยหนุนให้บริษัทฯสามารถทำกำไรได้ และได้ธุรกิจ Brokerage เข้ามาช่วยเพราะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง +44% YoY และมีดีล IPO หุ้น OR รวมถึงธุรกิจกองทุนรวมที่ได้ค่า front-end fee จากการออกกองใหม่ 1 กอง โดยคาดว่าไตรมาส 1/64 จะมีกำไรสุทธิในช่วง 1.64-1.80 พันล้านบาท ขณะที่การขยายตัวของสินเชื่อยังหดตัวอยู่

นอกจากนี้ TISCO จะยังคงเป็นหุ้นที่มี Dividend yield สูงถึงกว่า 6-8% เด่นสุดในกลุ่มแบงก์ ส่วน NPL ปีนี้คาดว่าจะมี 2.5-3.0% จากปีที่แล้ว (2563) ที่มี NPL อยู่ 2.5% ซึ่ง NPL มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ปีหน้ามีโอกาสที่ NPL จะเริ่มปรับตัวลงได้

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ (2564) ไว้ที่ 6.37-7.06 พันล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว (2563) ที่มีกำไรสุทธิ 6,063 ล้านบาท

หุ้น TISCO ปิดเช้าที่ 97.75 บาท ลดลง 0.50 บาท (-0.51%) ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าร่วง 17.10 จุด

โบรกเกอร์คำแนะนำราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
เคทีบีเอสทีซื้อ105.00
ธนชาตซื้อ109.00
ฟิลลิปซื้อ106.00
เมย์แบงก์ กิมเอ็งซื้อ110.00
ยูโอบี เคย์เฮียนซื้อ110.00
เอเชีย พลัสซื้อ102.00

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 ของ TISCO จะอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท เติบโต 23% yoy และ 11% qoq จากการตั้งสำรองฯที่ลดลง แม้การขยายตัวของสินเชื่อจะยังหดตัวอยู่แต่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการบริหารจัดการด้านต้นทุนดอกเบี้ย ทำให้ TISCO ยังมีกำไรที่เติบโตได้ ส่วน NPL ในปีนี้ก็มีแนวโน้มที่จะลดลง ซึ่งคาดว่าจะมี NPL ปีนี้ไม่เกิน 2.5% จากปีที่แล้ว (2563) ที่มี NPL อยู่ 2.5%

นอกจากนี้ TISCO ยังเป็นหุ้นที่ให้ปันผลเด่นสุดในกลุ่มแบงก์ โดยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) มีกว่า 6% พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ (2564) ไว้ที่ 7,061 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีที่แล้ว (2563) ที่มีกำไรสุทธิ 6,063 ล้านบาท ซึ่งมาจากการตั้งสำรองฯที่ลดลงในปีนี้

ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้น TISCO มีความโดดเด่นในด้านปันผลที่ให้ yield ดี 7-8% ส่วนปีนี้ (2564) คาดการณ์กำไรสุทธิไว้ที่ 6,367 ล้านบาท เติบโต 5% yoy โดยปีนี้คาดว่าจะมีการตั้งสำรองฯลดลง เนื่องจากปีที่แล้วมีการตั้งสำรองฯไปมาก และ TISCO ก็ยังมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี

ทั้งนี้ในส่วนสินเชื่อปีนี้หดตัวคาดว่าจะ -1.6% และ NPL ปีนี้คาดไว้ที่ 2.99-3% สูงกว่าปีที่แล้วที่มี NPL 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่ และแบงก์ก็ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ แต่ปีหน้าก็น่าจะเริ่มเห็นการปรับตัวลงของ NPL ได้ ส่วน NIM ก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่

ส่วนบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ชอบ TISCO เพราะมีความเสี่ยงในการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่มฯ เพราะมี Coverage Ratio ที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ระดับ 211% และปี 64 หากไม่มีข้อบังคับจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องการจ่ายเงินปันผลคาดว่า TISCO จะยังคงเป็นหุ้นที่มี Dividend yield สูงถึงระดับ 7%

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 1/64 ที่ 1.64 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น +11% QoQ จากการตั้งสำรองฯที่ลดลงเพราะมีการตั้งเผื่อไปแล้วในปี 2563 โดยไตรมาสนี้คาดว่า Credit cost จะอยู่ที่ 115bps ลดลงจากไตรมาส 4/63 ที่ 143bps ขณะที่ NIM ทรงตัวที่ 4.70% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจาก cost of fund ที่ลดลงจากการ rollover เงินกู้ยืมมาเป็นเงินฝากได้มากขึ้นแต่ชดเชยไปกับ yield ลดลงจากการช่วยเหลือลูกหนี้

ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง -3% YoY และ -2% QoQ เพราะไตรมาสก่อนมี incentive fee จากกองทุนรวมที่ 60 ล้านบาท แต่ได้ธุรกิจ Brokerage เข้ามาช่วยเพราะมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง +44% YoY และมีดีล IPO หุ้น OR รวมถึงธุรกิจกองทุนรวมที่ได้ค่า front-end fee จากการออกกองใหม่ 1 กอง ด้านสินเชื่อรวมคาดปรับตัวลดลง -2% QoQ จากสินเชื่อทุกประเภทที่หดตัวลงจากนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นเพราะกังวลต่อหนี้เสียที่มีโอกาสเกิดสูงขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้มีการเลือกลูกหนี้ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ด้าน NPLs จะทยอยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.70% จาก 2.50% ในไตรมาสก่อน จากลูกหนี้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ

โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 6.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +12% YoY จากการตั้งสำรองฯที่ลดลง ขณะที่ coverage ratio อยู่สูงที่สุดในกลุ่มฯที่ 211% ซึ่งรองรับความเสี่ยงจากโควิด-19 รอบใหม่ได้ และคาดกำไรในไตรมาส 2/64 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ได้จากสำรองฯที่ลดลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , , , , , ,
Back to Top