ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง เหตุนักลงทุนขายหุ้นทำกำไรหลังดาวโจนส์-S&P500 ทำนิวไฮ

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้ขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทน่าจะปรับตัวลดลงในคืนนี้ หรือถ้าเพิ่มขึ้นก็ไม่มากนัก

ณ เวลา 18.09 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 46 จุด หรือ 0.14% สู่ระดับ 33,369 จุด

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ พุ่งขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน ลดลงสู่ระดับ 6.0% ในเดือนมี.ค. จาก 6.2% ในเดือนก.พ.

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0 โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในเดือนมี.ค.

ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานจำนวนหลายล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง โดยข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า สหรัฐสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเฉลี่ยมากกว่า 3 ล้านคน/วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top