เงินบาทเปิด 31.20 ต่อดอลล์ แข็งค่าหลัง Bond Yield สหรัฐอ่อนตัวลง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.20 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันจันทร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.52 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อเย็นวันจันทร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับลดลง แม้ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะออกมาดูดีก็ตาม

ท้งนี้ เงินบาทแข็งค่าตามตลาดโลกและเงินหยวน อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันนี้ ว่าจะมีมาตรการออกมาในระดับที่เข้มงวดมากน้อยเพียงใดในการควบคุมการแพร่ะระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ

“ดอลลาร์อ่อนค่า หลังจากบอนด์ยิลด์สหรัฐฯลดลง แม้ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาดี เงินบาทแข็งค่าตามตลาดโลกและเงินหยวน แต่ยังต้องระมัดระวังมาตรการคุมโควิดในไทย” นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (12 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.34084% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35963%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.87 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันจันทร์ที่ระดับ 109.34 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1954 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันจันทร์ที่ระดับ 1.1902 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.547 บาท/ดอลลาร์
  • การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะพิจารณาข้อเสนอจากที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข ในการมาตรการดูแลและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ ซึ่งจะมีการปรับโซนพื้นที่ทั่วประเทศเหลือเพียงสีแดง และสีส้มเท่านั้น รวมทั้งข้อเสนอให้ภาครัฐและเอกชนต้องทำงานจากที่บ้าน (work from home) ขณะเดียวกันต้องติดตามว่าจะมีคำสั่งเรื่องล็อกดาวน์ หรือเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ที่เป็นจังหวัดเสี่ยงหรือไม่ด้วย
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของดอลลาร์ และได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหลายรายการเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 9.8% ในเดือนมี.ค. เป็นผลมาจากการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวงกว้าง
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่ลดลง 2.6% ในเดือนก.พ. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
  • สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 83 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก
  • สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการจีนเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 เวลา 09.00 น. เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนมี.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และอัตราว่างงานเดือนมี.ค.

ยูโรโซนเตรียมรายงานดุลการค้าเดือนก.พ. และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. เวลา 16.00 น.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค. เวลา 19.30 น. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top