JMART มั่นใจปีนี้ผลงานยังโตตามเป้า 50% แม้ยังมีโควิด,นำ JFIN Coin กระตุ้นตลาด

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่าในปีนี้ ผลประกอบการของบริษัทจะเติบโต 50% ตามเป้าหมาย แม้ว่าเกิดการะบาดโควิดระลอก 3 เนื่องจากไตรมาส 1/64 ภาพรวมผลงานเติบโตชัดเจน และไตรมาส 2/64 ก็คาดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับ บริษัทจะนำเหรียญ JFIN Coin มาใช้ประโยชน์กับกิจการของกลุ่ม JMART ทั้ง 7 บริษัทที่มีลูกค้ารวม 7 ล้านราย โดยเริ่มจากแคมเปญ ลด แลก แจก เป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มในวันที่ 17 พ.ค.นี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้เข้ามาเดือนละ 70 ล้านบาท รวมทั้งจะมีการแจกเหรียญให้กับพนักงาน รวมทั้ง Selling Agent ที่มีอยู่จำนวน 9 พันคน

“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรารวมกัน 7 บริษัท พยายามสร้างดีมานด์ให้เกิดขึ้น ให้ลูกค้าเข้าใจมากขึ้น พนักงานของเราต้องเข้าใจ เราเชื่อว่าการเติบโต โดยนำ JFIN Coin มาทำการตลาดในรูปแบบใหม่จะทำให้กลุ่ม JMART เติบโตได้ตามเป้าหมาย”

นายอดิศักดิ์ กล่าว

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์และแอพพลิเคชั่นทางด้านฟินเทค และลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMART เปิดเผยว่า JFIN ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกของประเทศไทยกับการนำดิจิทัลโทเคน JFIN มาใช้แลกเป็นสินค้า (Redeem) ใช้ภายในกลุ่มเจมาร์ท เริ่มตั้งแต่ช่วง 3 ปีก่อน ภายหลังจาก ICO สำเร็จ

วันนี้ กลุ่ม JMART ยังคงพยายามผลักดันในการทำให้ JFIN สามารถนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์หรือบริการที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง (Real JFIN Utility mass adoption) ด้วยจุดแข็งของบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทที่มีระบบนิเวศน์ในการทำธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งค้าปลีก การเงิน ประกัน และ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีฐานลูกค้าจำนวนมาก

ดังนั้น แต้มต่อของ JFIN วันนี้ มั่นใจจะทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจตลาดคริปโตเคอเรนซี่ได้มากขึ้น และเป็นรายแรกในการปฏิวัติวงการตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ภาพชัดเจนที่สุด และจะเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้กระตุ้นยอดขาย ของกลุ่มบริษัทให้เพิ่มขึ้นด้วย

“เริ่ม 17 พ.ค. เราคาดหวังกลุ่มลูกค้าใช้โปรแกรม(ลดแลกแจก JFIN )นี้ น่าจะเกิดผลในเดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไปเดือนละ 70 ล้านบาท ความตั้งใจเฟสแรกใช้ในวงแคบ ลูกค้าและพนักงาน ส่วนเฟส 2 คาดจะเห็นในไตรมาส 3 -ไตรมาส 4 มีพูดคุยกับพันธมิตรอยู่ 3-41 ราย”

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน JFIN Coin นำออกมาใช้แล้ว 100 ล้านโทเคน จากทั้งหมด 300 ล้านโทเคน โดยที่เหลือ 200 ล้านโทเคนหากจะนำมาใช้จะต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะนำมาใช้แต่อย่างใด

ด้านโปรเจ็กต์สำหรับพนักงานของ JMART บริษัทมุ่งเน้นการสร้างความรู้และความเข้าใจ เพื่อให้ทุกฝ่ายในองค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน และมีโอกาสได้รับ JFIN หากผลงานเป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้ง การให้ JFIN ต่อพนักงานในรูปแบบ (ETOP) ตามอายุการทำงาน หรือเงื่อนไขที่จะออกมาเป็นหลักเกณฑ์ เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากรของบริษัทในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างการเจริญเติบโตให้แก่กลุ่ม JMART เจมาร์ทอย่างยั่งยืนในอนาคต

อนึ่ง กลุ่ม JMART มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีและบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาสนับสนุน เป็นจุดเริ่มต้นของการนำ JFIN ซึ่งก็คือดิจิทัลโทเคนของบริษัทในกลุ่ม ภายใต้การบริหารของ JVC เข้ามาระดมทุนในรูปแบบ ICO (initial coin offering) เป็นรายแรกของประเทศไทย และประสบความสำเร็จในการซื้อขายวันแรก วันที่ 2 พ.ค.61 มีภารกิจหลักเพื่อพัฒนาระบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) บนเทคโนโลยี Blockchain

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top