นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 2,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 862 ล้านบาท
ขณะที่ SPRC รายงานไตรมาส 1/64 มีกำไรสุทธิ 2.01 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.46 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 8.27 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.91 บาท
ปัจจัยหลักคือ กำไรจากสต๊อกน้ำมัน จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หักกลบกับค่าการกลั่นตลาดที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยโครงการปรับปรุงกระแสเงินสด สามารถช่วยเพิ่มค่าการกลั่นได้สูงสุดและรักษาระดับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1/64 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับค่าการกลั่นตลาดในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 3.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/63 ที่ 3.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากส่วนเพิ่มราคาของน้ำมันดิบ (Crude Premium) ที่ปรับตัวสูงขึ้นและผลกระทบจากความต้องการน้ำมันที่ลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี SPRC สามารถรักษาผลกำไรผ่านการเลือกใช้น้ำมันดิบ เพิ่มการผลิตน้ำมันเบนซิน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันอากาศยาน รวมถึงการปรับการผลิตให้เหมาะสมและเป็นไปตามความต้องการภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องสำคัญต่างๆ ไปพร้อมกับการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยความสำคัญสูงสุดของบริษัทฯ คือ ความปลอดภัยและการมีสุขภาพอนามัยที่ดีของสมาชิกครอบครัว SPRC ทุกคน ซึ่ง SPRC ได้ดำเนินมาตรการป้องกันตามคำแนะนำของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ส่งผลให้พนักงงาน SPRC ไม่มีใครได้รับเชื้อโควิด-19
ประการที่สอง คือ ความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ SPRC ทุ่มเทใส่ใจอย่างยิ่งในเรื่องความเชื่อถือได้ของกระบวนการกลั่น ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีความพร้อมในการจัดหาสินค้าได้ตามความต้องการ
ประการที่สาม คือ เร่งสนับสนุนและส่งเสริมความคิดริเริ่มใหม่ๆ ในโครงการปรับปรุงกระแสเงินสด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ของบริษัทฯ ต่อไป
ประการที่สี่ คือ มุ่งหาโอกาสในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันและก๊าซ เพื่อปรับปรุงจากผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับ SPRC
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาหาโอกาสทางธุรกิจด้านอื่น ๆ ผ่านทางการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและด้านความยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ค. 64)
Tags: SPRC, ทิโมธี อลัน พอตเตอร์, น้ำมัน, น้ำมันดิบ, ผลการดำเนินงาน, หุ้นไทย