แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน แต่มีลุ้นรีบาวด์ในกรอบจำกัดหลังตัวเลขศก.สหรัฐดี

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ภาพรวมผันผวน แต่มีลุ้นรีบาวด์ในกรอบจำกัดหลังการแพร่ระบาดโควิดในประเทศยืดเยื้อ แต่ผ่อนคลายหลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯออกมาดี แต่ภาพ Fund Flow เป็นลบ จากกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่ง และ MSCI ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย รวมถึงกองทุนในประเทศ-ต่างชาติขายออกต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 1,530 แนวต้าน 1,562 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน แต่มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้ในกรอบจำกัดเนื่องจากกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ยืดเยื้อ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียทางแถบเอเชียเหนือทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ติดลบ อย่างไรก็ตามตลาดผ่อนคลายขึ้นหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 34,000 ราย สู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 490,000 ราย

อย่างไรก็ดี ภาพ Fund Flow เป็นลบ จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งขึ้น และ MSCI ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย รวมถึงกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างขาติได้ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราให้ติดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 ของไทยในสัปดาห์หน้า และวันนี้ให้ติดตามรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของภาครัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,562 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,021.45 จุด เพิ่มขึ้น 433.79 จุด (+1.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,112.50 จุด เพิ่มขึ้น 49.46 จุด (+1.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,124.99 จุด เพิ่มขึ้น 93.31 จุด หรือ (+0.72%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.55 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 275.69 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 154.02 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 พ.ค.) 1,548.13 จุด ลดลง 23.72 จุด (-1.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,412.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 พ.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 พ.ค.) ปิด 63.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.26 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 พ.ค.) อยู่ที่ 2.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.31 แข็งค่าเล็กน้อย คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.40
  • การบินไทยเสนอแก้แผนฟื้นฟูให้เจ้าหนี้โหวต 19 พ.ค.ขอตั้งคณะกรรมการกำกับสินเชื่อใหม่ มีผู้แทนรัฐที่หนุนหรือค้ำประกันสินเชื่อ รวมกับผู้แทนสถาบันการเงิน หวังหนุนแผนหาทุน 5 หมื่นล้าน เปิดช่องดึงภาครัฐช่วยค้ำประกันเงินกู้ “ชาญศิลป์” เร่งหาเงินทุนช่วง 3 ปีแรก เปิดกว้างการสนับสนุนจากทั้งรัฐและเอกชน
  • คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) พิจารณาแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ของประเทศให้สอดรับนโยบาย 30/30 เพื่อให้ไทยก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษหรือแซดอีวี อย่างน้อย 30% ของการผลิตในปี 73 (ปี 2030) หรือประมาณ 1.434 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ 725,000 คัน, รถจักรยานยนต์จะผลิต 675,000 คัน และประเภทรถบัส รถบรรทุกผลิต 34,000 คัน และกำหนดเป้าหมายใช้ในประเทศ การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าและเป้าหมายการผลิตแบตเตอรี่ให้บรรลุเป้าหมายภายในปี 73
  • นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ส่งจดหมายถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อ นำเสนอแนวทางการยกระดับมาตรการขั้นสูงสุดด้านสุขอนามัยในร้านอาหารให้กลับมาเปิดบริการได้ เพื่อเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างแนว ป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และหวังช่วยเหลือผู้ประกอบการ ร้านอาหารใน 6 จังหวัด (กรุงเทพฯ, ชลบุรี, เชียงใหม่, ปทุมธานี และสมุทรปราการ) หลังมีนโยบายของภาครัฐออกคำสั่งห้ามรับประทานอาหารภายในร้าน

หุ้นเด่นวันนี้

  • VL-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์(VL)) มีจำนวน 399,999,337 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (28 เม.ย.2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 27 ต.ค. 2564 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 27 เม.ย. 2566
  • BCH (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 20 บาท คาดกำไร Q1/64 ที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%qoq และ 27 %yoy จากรายได้ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน Q2/64 จากโควิด-19 ระบาดหนักในรอบที่ 3
  • EPG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร”เป้า IAA Consensus 13.60 บาท คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวในส่วนของยอดขาย Aeroklas กลุ่มสินค้าฉนวนความร้อนความเย็นภายใต้แบรนด์ Aeroflex คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐ ช่วงที่ผ่านมาบริษัทลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐฯเปลี่ยนเครื่องจักรระบบ High speed มาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คาดว่าจะเริ่มทดสอบผลิต มิ.ย.64 นอกจากนี้ ธุรกิจทั้ง 2 ยังมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ 70% รับประโยชน์บาทอ่อน รวมถึงระยะสั้นมีประเด็นหนุนจากราคาน้ำมันชะลอการปรับตัวขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top