SET ภาคเช้าพลิกร่วง 10 จุด รับแรงขายทำกำไรหลังรีบาวด์

ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้ารีบาวด์ขึ้นมากว่า 10 จุด ตอบรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด หลังจากนั้นไม่นานดัชนีฯก็ร่วงลงมากว่า 10 จุด โดยตลาดมีความผันผวนจากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ของสหรัฐฯก็ออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนไปอีกระยะหนึ่ง

เมื่อเวลา 9.58 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,558.44 จุด เพิ่มขึ้น 10.31 น. (+0.67%)

เมื่อเวลา 10.51 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,538.02 จุด ลดลง 10.11 จุด (-0.65%)

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าเปิดมาไม่นานปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด ก่อนที่พลิกกลับลงมากว่า 10 จุด มองว่าตลาดคงจะผันผวนไปอีกระยะหนึ่งเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นยังไม่หายไป และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ของสหรัฐฯก็ออกมาสูงกว่าคาด ตอกย้ำความสอดคล้องของเงินเฟ้อสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น ซึ่งคงจะอยู่ในลักษณะนี้ไปอีก 2-3 เดือน เพราะฐานปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ส่วนตลาดบ้านเราเมื่อวานนี้ร่วงแรงไปแถว 1,501 จุด ก่อนที่จะมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาแถว 1,548 จุด ซึ่งได้ขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว วันนี้ก็เลยมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยงความผันผวนของตลาดต่างประเทศ

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,520-1,555 จุด

ก่อนหน้านี้ นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าวันนี้ดีดตัวขึ้นไปกว่า 10 จุด เป็นการรีบาวด์ขึ้นมาในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯรีบาวด์เมื่อคืนนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 34,000 ราย สู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 490,000 ราย

ส่วนตลาดบ้านเราเมื่อวานนี้ดัชนีฯลงไปลึกแถว 1,500 จุดแล้วดีดกลับขึ้นมาได้เร็ว ซึ่งตลาดฯในบริเวณดังกล่าวเข้าภาวะขายมากไป แต่ก็เชื่อว่าการรีบาวด์ยังไปได้ไม่ไกล เป็นแค่การฟื้นตัวระยะสั้น พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565 จุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top