ไต้หวันกำลังเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันระบบสาธารณสุข ขณะที่รัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเพราะเกรงว่าอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจของไต้หวันซึ่งได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 เข้าสู่ภาวะชะงักงัน
ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันได้ขอความร่วมมือให้บริษัทต่างๆ อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือแยกพื้นที่เพื่อลดความแออัด หลังมีการรายงานพบผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้น 206 รายเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางการสั่งให้กรุงไทเปและนิวไทเปเข้าสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วน โดยจำกัดจำนวนคนภายในและภายนอกอาคาร ตลอดจนปิดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานประกอบการส่วนใหญ่
อย่างไรก็ดี รัฐบาลไต้หวันอาจบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ หากพบผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศโดยเฉลี่ยเกิน 100 คนต่อเนื่องเป็นเวลา 14 วัน โดยที่ครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อนั้นไม่สามารถระบุแหล่งต้นตอได้ชัดเจน ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันร่วงลงอย่างหนักถึง 8.4% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
จนถึงขณะนี้ มีการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าไปยังไต้หวันเพียง 315,000 โดส ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากพยายามจองคิวเพื่อฉีดวัคซีน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศว่า การฉีดวัคซีนจะจัดสรรให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือบุคลากรที่ปฏิบัติงานด่านหน้าก่อนเท่านั้น
ทั้งนี้ นักการทูตไต้หวันประจำสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ได้ติดตามความคืบหน้าเพื่อให้วัคซีนของโมเดอร์นามาถึงไต้หวันเดือนมิ.ย.นี้ ทางด้านประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินระบุว่า วัคซีนที่ผลิตในประเทศจะได้ใช้ในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 64)
Tags: COVID-19, TAIEX, ตลาดหุ้นไต้หวัน, นิวไทเป, มาตรการล็อกดาวน์, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, เศรษฐกิจไต้หวัน, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, โมเดอร์นา, ไช่ อิงเหวิน, ไต้หวัน, ไทเป