องค์กรพัฒนาเมืองสิงคโปร์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายอพาร์ทเมนต์ส่วนตัวมือหนึ่งในสิงคโปร์ขยับลงเพียง 2.6% แตะที่ 1,262 ยูนิตในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 1,296 ยูนิต โดยแม้ยอดขายจะปรับตัวลงแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ขายดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ยังคงมีความยืดหยุ่นแม้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ยอดขายบ้านที่ยังคงอยู่ในระดับสูงนี้นับว่าเป็นปัจจัยบวกเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์ ซึ่งเสี่ยงชะลอตัวลงหลังรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศใช้นโยบายคล้ายล็อกดาวน์เมื่อวานนี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ หลังยอดขายและราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้ทางการสิงคโปร์ต้องออกมาตรการลดความร้อนแรงของตลาด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจจะดูร้อนแรง แต่รัฐบาลก็น่าจะทำได้เพียงติดตามสถานการณ์ในช่วงนี้ เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 น่าเป็นห่วงมากกว่า
ทั้งนี้ สิงคโปร์ได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เข้มงวดเหมือนกับที่เคยล็อกดาวน์เมื่อปีที่แล้ว โดยห้ามไม่ให้มีการรับประทานอาหารภายในร้านและห้ามชุมนุมกันเกิน 2 คน หลังสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ทราบแหล่งที่มาเพิ่มขึ้น
มาตรการที่เข้มงวดขึ้นนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 4 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. ไปจนถึง 13 มิ.ย. ซึ่งนอกเหนือจากการจำกัดจำนวนผู้ชุมนุม และห้ามร้านอาหารเปิดให้รับประทานอาหารภายในร้าน โดยอนุญาตให้ขายอาหารแบบซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรีเท่านั้นแล้ว ทางรัฐบาลยังขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 64)
Tags: สิงคโปร์, องค์กรพัฒนาเมืองสิงคโปร์, อพาร์ทเมนต์, อสังหาริมทรัพย์, เศรษฐกิจสิงคโปร์