ดาวโจนส์ปิดบวก 123.69 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธนาคารช่วยหนุนตลาด แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อก็ตาม

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,207.84 จุด เพิ่มขึ้น 123.69 จุด หรือ +0.36%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,155.86 จุด ลดลง 3.26 จุด หรือ -0.08%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,470.99 จุด ลดลง 64.75 จุด หรือ -0.48%

แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.51% และดัชนี S&P500 ลดลง 0.43% ส่วนดัชนี Nasdaq บวก 0.31%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 68.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวทั้งภาคการผลิตและบริการ

ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ส่วนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดีดตัวขึ้นขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง

ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 61.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 60.5 ในเดือนเม.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 70.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 64.7 ในเดือนเม.ย.

ดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้น อาทิ โบอิ้งและแคทเทอร์พิลลาร์ โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 3.1% หลังแหล่งข่าวเปิดเผยว่า โบอิ้งมีแผนการขั้นต้นที่จะเพิ่มการผลิตเครื่องบิน 737 MAX จำนวนมากถึง 42 ลำต่อเดือนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีหน้า

หุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ โกลด์แมน แซคส์ และเจพี มอร์แกน ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ด้วย

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่ง 6.7% หลังประกาศแผนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นในสหรัฐร่วมกับบริษัทเอสเค อินโนเวชั่นของเกาหลีใต้

หุ้นอินวิเดีย คอร์ป บวก 2.6% หลังประกาศแตกหุ้น 4 ต่อ 1 โดยมีเป้าหมายทำให้ราคาหุ้นถูกลงสำหรับนักลงทุน

แต่หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.59% แล 0.52% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงิน เพิ่มขึ้น 0.9%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top