กลุ่มยางพาราขยับบวกขานรับราคาเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นรอบใหม่ลุ้นทะลุ 70 บาท/กก.

หุ้นในกลุ่มยางพาราราคาขยับขึ้นยกแผง โดยเมื่อเวลา 10.08 น.

  • หุ้น TRUBB บวก 3.21% มาอยู่ที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 22.15 ล้านบาท
  • หุ้น NER บวก 2.36% มาอยู่ที่ 6.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 170.47 ล้านบาท
  • หุ้น STA บวก 1.69% มาอยู่ที่ 45.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 115.23 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้น บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท มูลค่าส่งออกยางพาราอ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์เดือน เม.ย.64 อยู่ที่ 14,510 ล้านบาท (+75% YoY) ขณะที่มูลค่าส่งออกตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.64 อยู่ที่ 57,359 ล้านบาท (+44% YoY) ในส่วนของราคายางแท่งเฉลี่ยอ้างอิงจากการยางแห่งประเทศไทยของปี 64 (ม.ค.-พ.ค.) อยู่ที่ 69.12 บาท/กก. ทำให้ทั้งปีลุ้นยืนเหนือ 70 บาท/กก. ซึ่งจะเป็นราคาเฉลี่ยทั้งปีที่สูงสุดในรอบ 8 ปี นับตั้งตีปี 56

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อ NER และ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) จากตัวเลขมูลค่าส่งออกเดือน เม.ย.64 ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง YoY ตั้งแต่ ม.ค.64 ขณะที่ราคายางแท่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการทั้งในส่วนของล้อรถยนต์และถุงมือยางที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยราคายางแท่งเฉลี่ย ปี 64 (ม.ค.-พ.ค.) อยู่ที่ 69.12 บาท/กก. (+46% YoY) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อีกทั้งผู้บริหารทั้ง NER และ STA มองว่าราคายางปัจจุบันพึ่งเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งโดยปกติจะมี cycle เฉลี่ย 7 ปี โดยเราชอบ NER มากกว่าจากผลการดำเนินงานที่จะเติบโตได้โดดเด่นกว่า และมีแนวโน้มทำจุงสูดสูงใหม่อย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มปริมาณขายยางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ NER ปี 64 จะอยู่ที่ 1,770 ล้านบาท (+106% YoY) และปี 65 อยู่ที่ 1,939 ล้านบาท (+10% YoY) คิดเป็น CAGR (63-65) ที่ 41% ทำให้ปัจจุบัน Valuation ของ NER ถูกมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิโดย PER 64 อยู่ที่ 6.9x คิดเป็น PEG 0.17x รวมถึงบริษัทมี Dividend Yield ถึง 5-6%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top