ดาวโจนส์ปิดบวก 64.81 จุด ขานรับเศรษฐกิจฟื้นตัว-เมินเงินเฟ้อเพิ่ม

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 แม้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีก็ตาม โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดตลาดในสัปดาห์นี้บวกขึ้นได้เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,529.45 จุด เพิ่มขึ้น 64.81 จุด หรือ +0.19%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,204.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.23 จุด หรือ +0.08%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,748.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด หรือ +0.09%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.9%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.2% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.1%

ส่วนในเดือนพ.ค. ดัชนีดาวโจนส์ บวก 1.9%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.6% แต่ดัชนี Nasdaq ลดลง 1.5%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แม้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.5% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 2.3% ในเดือนมี.ค.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.4% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 1.9% ในเดือนมี.ค.

บรรดานักลงทุนต่างจับตาอย่างใกล้ชิดกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ และการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ และความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายระบุย้ำในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า เฟดยังไม่พร้อมที่จะปรับนโยบายสนับสนุนด้านการเงิน แม้บางรายได้ระบุว่าพวกเขาพร้อมที่จะเริ่มหารือเกี่ยวกับการปรับลดแผนการซื้อพันธบัตรแล้วก็ตาม โดยนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตลาดแรงงานสหรัฐตึงตัวมากกว่าที่คาดไว้

แม้ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐกลับลดลง และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 0.65% ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร ลดลงมากที่สุด 0.31%

หุ้นเซลส์ฟอร์ซ.คอม พุ่งขึ้น 5.43% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรทั้งปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซอฟท์แวร์ระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

บรรดานักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อมาหลายสัปดาห์แล้ว และได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นเติบโตซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี Nasdaq ซึ่งปรับตัวลงรายเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.53% หลังสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ยืนยันว่า โบอิ้งได้ยุติการส่งมอบเครื่องบิน 787 Dreamliners ซึ่งเพิ่มความล่าช้าครั้งใหม่ให้กับลูกค้า หลังจากที่การส่งมอบได้ระงับมา 5 เดือนแล้วเนื่องจากปัญหาด้านการผลิต

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.นี้ เนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top