สิงคโปร์ไฟเขียววัคซีนซิโนแวก หลัง WHO อนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่า สิงคโปร์ได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนแวก ไบโอเทคของจีนในกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของซิโนแวกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (1 มิ.ย.)

แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า การอนุมัติดังกล่าวจะเปิดทางให้บริษัทด้านสุขภาพในภาคเอกชนของสิงคโปร์สามารถนำวัคซีนซิโนแวกไปใช้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค และวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา

ที่ผ่านมานั้น สิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในประเทศเอเชียที่มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยล่าสุดสิงคโปร์มีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มนักเรียน จากนั้นจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนทั่วไป โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยผลักดันแผนการฉีดวัคซีนในประเทศให้มีความคืบหน้ามากขึ้น

ปัจจุบัน รัฐบาลสิงคโปร์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป โดยจะจัดสรรให้กับเจ้าหน้าที่กลุ่มที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เช่น บุคลากรด่านหน้า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่สนามบิน โดยนับจนถึงขณะนี้ สิงคโปร์ได้ฉีดวัคซีนโดสแรกให้กับประชาชนไปแล้วประมาณ 40% ของจำนวนประชากรในประเทศ

ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งอีกหลายประเทศของเอเชียที่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ แต่ยังลังเลที่จะเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ โดยสิงคโปร์ยังคงใช้มาตรการคุมเข้มในพื้นที่ชายแดน, ระงับการรับประทานอาหารแบบพบปะกัน, ปรับระบบการเรียนการสอนไปเป็นการเรียนที่บ้าน และจำกัดจำนวนการรวมกลุ่มของประชาชนเอาไว้สูงสุดเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา WHO ได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนแวก ไบโอเทคของจีนในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งนับเป็นวัคซีนโควิดตัวที่ 2 ของจีนที่ได้รับการรับรองจาก WHO ต่อจากวัคซีนโควิดของซิโนฟาร์ม นอกจากนี้ WHO ยังอนุมัติให้รวมวัคซีนโควิดของซิโนแวกในโครงการ Covax ของ WHO ด้วย ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประเทศยากจนเป็นส่วนใหญ่ที่เผชิญกับปัญหาด้านปริมาณวัคซีน เนื่องจากอินเดียได้ระงับการส่งออกวัคซีน

คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอิสระของ WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการได้แนะนำให้ใช้วัคซีนโควิดของซิโนแวกสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และการฉีด 2 โดสนั้นให้เว้นระยะเวลาห่างกันราว 2-4 สัปดาห์

ทั้งนี้ WHO ไม่ได้จำกัดอายุสูงสุดสำหรับผู้ฉีดวัคซีนของซิโนแวก เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ให้เห็นว่า มีแนวโน้มที่วัคซีนดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้สูงอายุ

ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 6 ตัวในรายการ Emergency Use Listing (EUL) ของ WHO ประกอบด้วยวัคซีนจากไฟเซอร์-บิออนเทค, แอสตร้าเซนเนก้า, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, โมเดอร์นา, ซิโนฟาร์ม และซิโนแวก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top