นายกฯ แนะชาวนารวมกลุ่มร่วมคุมต้นทุน-ปรับวัฒนธรรมนำเทคโนโลยีเข้าช่วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำนายศักดิ์ดา เขตกลาง ชาวนาดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2564 คณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ซึ่งมีนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายด้านข้าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้าวและชาวนามาโดยตลอด จึงมีนโยบายในการรักษาเสถียรภาพข้าวและรายได้ของชาวนา โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวแบบครบวงจร เพื่อบริหารจัดการข้าวตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต ซึ่งได้แยกตลาดข้าวทั่วไปกับตลาดเฉพาะ เพื่อให้สามารถดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ให้ลดราคาข้าวลงมาให้ได้

ในด้านการสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาและองค์กรชาวนาพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้เพียงพอและอยู่ดีมีสุขนั้น ได้กำหนดเป้าหมายให้ “ชุมชนข้าว” ประกอบด้วยสหกรณ์การเกษตรข้าว วิสาหกิจชุมชนข้าว ศูนย์ข้าวชุมชน กลุ่มชาวนา ไม่น้อยกว่า 10,000 กลุ่ม ต้องมีความเข้มแข็งระดับมาตรฐานในปี 2567 โดยให้ชุมชนชาวนาเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและสร้างเครือข่ายขยายผล

โดยมีชุมชนข้าวประกอบด้วย 1.ศูนย์ข้าวชุมชน (ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน) 2. ชุมชนแปลงขยายพันธุ์ข้าว 3.ชุมชนข้าวแปลงใหญ่ 4. ชุมชนข้าวอินทรีย์ ขณะที่ในส่วนของการพัฒนาชาวนา จะมีการพัฒนาชาวนาในชุมชนข้าวเป้าหมายที่กำหนดเพื่อให้มีจำนวนชาวนาวปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ปราชญ์ชาวนา (Super Farmers) และชาวนารุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรชาวนา โดยเฉพาะชาวนาที่มีแปลงที่นาจำนวนน้อย ซึ่งชาวนาในส่วนนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงได้มีการรวมแปลงเป็นชุมชนข้าวแปลงใหญ่เพื่อให้ชาวนามีรายได้ที่ทั่วถึงกัน ซึ่งที่สำคัญคือต้องหาทางลดค่าใช้จ่ายด้านเครื่องจักรกลการเกษตรให้มากที่สุด พร้อมกับต้องรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้ได้เพราะเป็นรายได้ของชาวนา และปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล จึงขอให้เกษตรกรชาวนาได้ปรับวัฒนธรรมในการทำนา โดยให้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน โดยรัฐบาลจะดูแลเกษตรกรชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ SMEs และภาคอื่น ๆ ของประเทศไปพร้อมกัน

นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า การรวมกลุ่มของชาวในรูปแบบนาแปลงใหญ่ และพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนให้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาการผลิตข้าวและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี จะช่วยให้ชาวนามีความสามารถในการผลิต และช่วยขับเคลื่อนการผลิตข้าวของประเทศอย่างเป็นระบบ โดยขอขอบคุณชาวนาไทยที่ได้ทุ่มเท แรงกายแรงใจเพื่อพัฒนาข้าวไทยและเพิ่มผลิตภาพข้าวไทยให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความยั่งยืนให้ภาคเกษตรไทยมาโดยตลอด พร้อมย้ำว่า “ใจของนายกรัฐมนตรีไม่เคยทิ้งเกษตรกร”

ด้านผู้นำชาวนารับทราบและไปหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยการพัฒนาภาคการเกษตรตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีเป้าหมายเน้นใช้การเกษตรสร้างมูลค่า เพื่อพัฒนาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องยกระดับภาคการเกษตรสู่อุตสาหกรรม เพื่อให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ และทันต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น ต้องมีการพัฒนาเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรให้เข้มแข็ง พัฒนาทรัพยากรการผลิตทางการเกษตร พัฒนาสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , , , , , , , , ,
Back to Top