นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน (Quasi-Emergency) ใน 3 จังหวัดของประเทศตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลท้องถิ่น หลังจากที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ฐานทัพสหรัฐพุ่งสูงขึ้น
การประกาศมาตรการกึ่งฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้ในจังหวัดโอกินาว่า ยามากูชิ และฮิโรชิมะ ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. จนถึงวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถใช้มาตรการสกัดโควิด รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น การปรับลดเวลาให้บริการในร้านอาหาร หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่าญี่ปุ่นอาจเผชิญการแพร่ระบาดระลอกที่ 6
การประกาศมาตรการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว และเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขของแต่ละท้องถิ่นต้องรับภาระหนักเกินไป
อนึ่ง คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลได้ออกคำแนะนำดังกล่าวก่อนที่ผู้นำญี่ปุ่นจะประกาศใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลจังหวัดโอซาก้ารายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1,414 รายใน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 981 รายในวันก่อนหน้า
ชิเกะยูกิ โกโตะ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราต้องตระหนักไว้เสมอว่าการแพร่ะระบาดของเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, ญี่ปุ่น, ฟูมิโอะ คิชิดะ, มาตรการควบคุมโรค, โควิด-19, โอมิครอน