กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นยกแผงขานรับราคาน้ำมันดิบทะลุ 80 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากประเมินโควิดโอมิครอนไม่กระทบกับความต้องการน้ำมัน
เมื่อเวลา 10.10 น.
- PTTEP ปรับขึ้น 1.62% หรือเพิ่มขึ้น 2.00 บาท มาที่ 125.50 บาท
- PTT ปรับขึ้น 0.64% หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 39.25 บาท
- TOP ปรับขึ้น 1.92% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 53.00 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งแรง +3.52% สู่ 83.72 เหรียญฯ/บาร์เรล จากแนวโน้มที่ Omicron จะไม่ได้กระทบกับความต้องการน้ำมันมากอย่างที่กังวล ขณะที่ทางฝั่ง supply แม้ OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ม.ค. แต่ไนจีเรียและลิเบียไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ตามโควตา เนื่องจากประสบปัญหาการผลิตในประเทศ เป็นแรงหนุนบวกต่อกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ปิดทำการล่าสุด (11 ม.ค.) ที่ระดับ 81.22 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
ด้าน บล.เอเชียเวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ เก็งกำไร หุ้นในกลุ่ม Oil Play เราเลือก บมจ.ปตท (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เป็นหุ้นเด่น
ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว แม้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มจะทำให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจาก Seasonal Demand และอุปทานที่ลดลงจากการผลิตน้ำมันในลิเบียลดลงเหลือเพียงวันละ 729,000 บาร์เรล (เดิม 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากมีการปิดบ่อน้ำมันหลายแห่ง รวมทั้งมีการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบในเดือน ม.ค.ถึงต้นเดือน ก.พ.จะยังคงยืนในระดับสูง ก่อนปรับลดลงเนื่องจากเข้าสู่ปลาย Seasonal Demand และอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากแผนการปรับเพิ่มกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC+
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 65)
Tags: PTT, PTTEP, TOP, น้ำมันดิบ, ปิโตรเคมี, ราคาน้ำมัน