ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับจีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 484.51 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด หรือ +0.70%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,201.64 จุด เพิ่มขึ้น 58.64 จุด หรือ +0.82%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,933.72 จุด เพิ่มขึ้น 50.48 จุด หรือ +0.32% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,611.23 จุด เพิ่มขึ้น 68.28 จุด หรือ +0.91%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันจันทร์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2564 ของจีนขยายตัว 8.1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 0.10% สู่ระดับ 2.85% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินจำนวน 2 แสนล้านหยวน (3.15 หมื่นล้านดอลลาร์)
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค. ขณะที่คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
หุ้นเครดิตสวิส (Credit Suisse) ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจระดับโลกร่วง 2.26% หลังนายแอนโทนิโอ ฮอร์ตา-โอโซริโอ ประธานเครดิตสวิสประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวได้เพียง 9 เดือน โดยการประกาศลาออกดังกล่าวเป็นผลมาจากการกระทำความผิดหลายประการ ซึ่งรวมถึง การละเมิดกฎระเบียบการกักตัวของสวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษ
หุ้นยูนิลีเวอร์ ร่วง 4.01% และ หุ้นแกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) บวก 0.91% หลังมีรายงานว่า ยูนิลีเวอร์เดินหน้าเจรจาเข้าซื้อธุรกิจในกลุ่มสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพของ GSK โดยระบุว่าเป็น “ความเหมาะสมเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง” หลังข้อเสนอมูลค่า 5 หมื่นล้านปอนด์ (6.84 หมื่นล้านดอลลาร์) ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป