เงินบาทเปิด 32.94 แข็งค่าจากวานนี้ จับตาประชุมศบค.วันนี้-สถานการณ์การเมืองในปท.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.94 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่า จากปิดตลาดเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าจากผู้ส่งออกทองคำ หลังราคาทองใน ตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ดอลลาร์ในตลาดโลกพักฐานชั่วคราว

ปัจจัยในประเทศที่ตลาดจับตามองวันนี้ ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่ ที่จะมีการเสนอให้นำมาตรการ Test&Go กลับมาใช้อีกครั้งหลังปรับเงื่อนไขให้เหมาะสม แล้ว และความเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีของพรรคพลังประชารัฐที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

“บาทปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังมี flow จากการส่งออกทองคำ” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.90 – 33.10 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.30547% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.30232%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.34 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 114.51/55 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1337/1345 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.190 บาท/ดอลลาร์

– ลุ้น ศบค.ชุดใหญ่เคาะมาตรการปรับโซนสีพื้นที่-ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-รื้อเทสต์ แอนด์ โก เข้มระบบติดตามตัวทุกคนที่เข้า ประเทศ โดยต้องตรวจหาเชื้อ 2 รอบก่อนเดินทางไปเที่ยว เพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อกซ์-นำร่องท่องเที่ยว ด้านปลัด สธ.ชี้ยังคงเตือนภัยระดับ 4 รอหารือศบค.ก่อนปรับลด ไฟเขียวลดเวลากักตัวกลุ่มเสี่ยงเหลือ 7 วัน

– สมาคมโรงแรมไทยสนับสนุนกลับมาใช้ Test and Go ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้ ไม่เช่นนั้นธุรกิจจะไปไม่รอด เพราะไม่มีกระแส เงินสดเข้ามา หวั่นเลิกจ้างพนักงาน ขณะที่ สทท.ชลบุรี เสนอรัฐบาลกำหนดให้โรงแรมรับต่างชาติ กันพื้นที่ห้องพัก 5% รองรับนักท่องเที่ยว ติดเชื้อไม่มีอาการและกำหนดรูปแบบทำประกันสุขภาพให้ครอบคลุมการรักษาโควิด-19

– รมว.คลัง เปิดเผยว่า คลังได้เรียกกรมสรรพากร และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เข้ามาหารือถึงการออกมาตรการสนับสนุนโครงการอนุญาตให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อการพำนักระยะยาว (แอลทีอาร์) โดยกระทรวงการคลังได้รายงานความคืบหน้าของสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อนำไปเสนอในที่ประชุม ศบศ. ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ซึ่งการหารือนี้ เป็นไปตามมติ ครม. ได้เห็นชอบไปแล้ว โดยจะมีการออกมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้นักลงทุน และธุรกิจสตาร์ทอัพจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจในมาตรการและรายละเอียดตรงกันจึงได้มาคุยกันก่อนจะนำเสนอ รายละเอียดในที่ประชุม ศบศ.

– รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ส.อ.ท.กำลังติดตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ที่ล่าสุด ราคาเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ได้ขยับสูงสุดในรอบ 7 ปี และโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯคาดการณ์ว่าเบรนท์อาจทะยาน สู่ 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลได้ในไตรมาส 3 ที่จะยิ่งกดดันให้ภาวะเงินเฟ้อของไทยเพิ่มขึ้นโดยรัฐบาลจำเป็นต้องวางมาตรการรับมือทั้ง ระยะสั้น กลางและยาว เพราะปีนี้ทั่วโลกและไทยจะเผชิญภาวะเงินเฟ้อและอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ซึ่งเป็นคลื่น ลูกใหม่ที่จะเข้ามาซ้ำเติม

– ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากล่าสุดราคาน้ำมันดิบตลาดโลกดีดตัวสูงเกินจากราคาที่คาดการณ์ไว้ จากปัจจัยการ ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลายประกอบกับความไม่สงบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปัญหายูเครน และล่าสุดตุรกีได้ ระงับการลำเลียงน้ำมันผ่านท่อส่งที่เชื่อมต่อระหว่างตุรกีและอิรักจากเหตุระเบิดที่ระบบการขนส่งยิ่งกดดันราคาเพิ่มขึ้น ขณะที่ไทยได้มีนโย บายตรึงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จนถึงสิ้นเดือน มี.ค.นี้ โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันที่ขณะนี้ติดลบ 8,700 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถแบกรับภาระได้อีกแล้ว

– พปชร.แตกหักธรรมนัส ลงมติขับ’ธรรมนัส-20 ส.ส.’พ้นพรรคชี้ทำผิดร้ายแรง ต่อรองขอ เก้าอี้ รมว.ทส. ส่อซบ ศก. ไทย – เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (19 ม.ค.) ขานรับ การคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.พ. หลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูง สุดในรอบ 30 ปี

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.702 ล้านยูนิต และสูง กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.650 ล้านยูนิต จากระดับ 1.678 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้แรง หนุนจากสภาพอากาศอบอุ่นในเดือนธ.ค. แม้ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.24 เยน จากระดับ 114.62 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ ฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9153 ฟรังก์ จากระดับ 0.9170 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2489 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2506 ดอลลาร์แคนาดา

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในวันพุธ (19 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่า ของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย

– นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ม.ค. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟด หลายรายต่างแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะ ผู้ว่าการเฟด, นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก, นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดา ลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก

– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ใน การประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

– ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี การผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top