ธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย (CBA) เปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคออสเตรเลียในเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าควร เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
CBA รายงานดัชนีการวางแผนใช้จ่ายภาคครัวเรือน (HSI) ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค. สูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีดังกล่าวเมื่อเดือนก.ค. 2560 โดยผู้บริโภคมีการใช้จ่ายไปกับภาคการท่องเที่ยว, การขนส่ง และสินค้าปลีกมากที่สุด
CBA เผยว่า บรรยากาศการซื้อขายในช่วงคริสต์มาสได้รับแรงหนุนจากการประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่รัฐบาลออสเตรเลียได้บังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงที่สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักวิเคราะห์ของ CBA เชื่อว่า การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคนั้นยังได้รับอานิสงส์มาจากระดับเงินออมของครัวเรือนที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งพุ่งแตะระดับ 2.6 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงปลายเดือนธ.ค.
เบลินดา อัลเลน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนธ.ค.บ่งชี้ว่า มีการฟื้นตัวจากช่วงล็อกดาวน์สกัดสายพันธุ์เดลตาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าการที่มีประชาชนจำนวนมากขึ้นต้องกักตัวจากสายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในเดือนม.ค.ก็ตาม
“การใช้จ่ายในภาคท่องเที่ยวและการขนส่งสะท้อนว่าประชาชนเดินทางกันมากขึ้นในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา” อัลเลนกล่าว และได้เสริมว่า “การท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น การขับรถไปเที่ยวที่ต่าง ๆ นั้นช่วยส่งแรงหนุนให้การใช้จ่ายโดยรวม แต่การใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางทางอากาศยังคงหดตัวลง เนื่องจากมีเที่ยวบินให้บริการน้อย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 65)
Tags: CBA, HSI, ผู้บริโภค, ภาคครัวเรือน, ออสเตรเลีย