เงินบาทเปิด 33.15 อ่อนค่าจากดอลลาร์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.98 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากการประชุมคณะ กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อคืนนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปฏิเสธความเป็นไป ได้ที่ว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เมื่อพิจารณาจากการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อ ขณะที่การประชุม FOMC เมื่อคืน นี้ ยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00-0.25%

“ผลประชุมออกมาตามคาด คือ QE น่าจะจบในมี.ค. และเฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่มี.ค.เป็นต้นไป แต่ประธานเฟด ส่ง สัญญาณว่าไม่ได้ปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยทุกรอบการประชุม จากเดิมที่มองว่าปีนี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ตอนนี้เริ่มมองว่า อาจจะขึ้น ได้ถึง 5 ครั้ง”

นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบไว้ที่ 33.00 – 33.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (26 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.37374% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35790%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.57 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 114.11 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1232 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1282 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.959 บาท/ดอลลาร์

– “อาคม” ลั่นสิ้นเดือนนี้ ได้ข้อสรุปเก็บภาษีคริปโท แย้ม 2 แนวทาง ส่งเสริม ให้อุตสาหกรรมเกิด สกัดกิจการทำลายสิ่ง แวดล้อม “นายกสมาคมคริปโทฯ” แนะภาครัฐควรหนุนตลาดโต หวั่นโมเดลเก็บภาษีสร้างภาระผู้ประกอบการกระดานเทรด

– “ทีดีโอ” เตรียมนัดสมาชิก ถกร่างเกณฑ์ห้ามสินทรัพย์ดิจิทัลชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อรวมความเห็น-แนวทางเสนอต่อ ก.ล.ต. ชี้หยุดเส้นทางพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโทฯในระยะยาว “ซิปแมกซ์” ลั่นปิดโอกาสผู้พัฒนานวัตกรรม-ประสบการณ์คนไทยใช้จ่ายเงินดิ จิทัล

– คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่าเฟดจะยังคงปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งจะส่งผลให้การทำ QE ของเฟดสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. พร้อมกับการเริ่มต้นปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว

– ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ให้ส่งผล กระทบต่อตลาดแรงงาน และระบุว่า ดัชนีต่าง ๆ ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอีก ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ มี ความเสี่ยงที่จะยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้น

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (24 ม.ค.) หลัง จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

– ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอด สั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้าน ที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. , ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. และดัชนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

– นักลงทุนจับตาสถานการณ์ยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์เตือนว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่าง รวดเร็ว หากสหรัฐและพันธมิตรปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย นอกจากนี้ รัสเซียจะไม่ตัดทางเลือกในการเพิ่มกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ เข้าไปในคิวบาและเวเนซุเอลา หากข้อเรียกร้องของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนอง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ม.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top