กลุ่มรับเหมาฯ บวก เก็งผลเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้วันนี้

หุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวขึ้น เมื่อเวลา 11.37 น. นำโดย CK บวก 4.27% มาอยู่ที่ 22.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 163.86 ล้านบาท

  • STEC บวก 2.78% มาอยู่ที่ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 96.65 ล้านบาท
  • ITD บวก 1.85% มาอยู่ที่ 2.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 22.72 ล้านบาท
  • NWR บวก 2.02% มาอยู่ที่ 1.01 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.49 ล้านบาท
  • UNIQ บวก 1.75% มาอยู่ที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.04 ล้านบาท

นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ในเวันนี้ (1 ก.พ.) จะมีการเปิดซองเทคนิค และซองราคาจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก)ในวันนี้ หลังจากได้เปิดให้ยื่นซองประมูลไปแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบรายชื่อผู้เสนอราคาต่ำสุด และน่าจะสามารถเซ็นสัญญาในเดือนมี.ค.นี้

โดยรอบนี้มีผู้ยื่นซองฯ 5 ราย ประกอบด้วย บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอน (STEC) จับมือกับบมจ.ช.การช่าง (CK), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) จับมือกับ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น (UNIQ)

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่ามีมุมมองเป็นบวกต่อ STEC จากแนวโน้มกำไรปี 2565 ที่จะฟื้นตัวสูงในรอบ 3 ปีและกลับมาเป็นขาขึ้น จากโควิด-19 ที่คลี่คลายขึ้นและการเริ่มงานใหม่หลายโครงการ ขณะที่ backlog ยังสูงถึง 1 แสนล้านบาท (รวมงานอู่ตะเภา) และยังมีลุ้นโครงการอื่นเพิ่มเติมนับจากนี้ โดยเฉพาะสายสีม่วงใต้ที่จะมีการประกาศผลในวันนี้ (1 ก.พ.)

ประเมินกาไรปกติไตรมาส 4/64 อยู่ที่ 175 ล้านบาท ลดลง -28% YoY แต่ฟื้นตัว +29% QoQ (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน) กาไรปกติที่ลดลง YoY เป็นไปตามการส่งมอบโครงการใหญ่ เช่น รัฐสภา และต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ด้านกาไรปกติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ ได้ปัจจัยหนุนหลักจากงานก่อสร้างที่เร่งตัวได้ดีขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการปิดแคมป์ในไตรมาส 3/64 และ GPM ที่ทยอยฟื้นตัว

พร้อมปรับประมาณการกำไรรปกติปี 2564 ขึ้น +6% เป็น 634 ล้านบาท (-27% YoY) จากไตรมาส 4/64 ที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด และยังคงประมาณการกาไรปกติปี 2565 ที่ 1.1 พันล้านบาท ฟื้นตัวสูง +76% YoY ราคาหุ้นปรับตัวลง แต่ in line กับ SET ในช่วง 1 เดือน จึงคงคำแนะนา “ซื้อ” จาก 1) แนวโน้มผ่านจุดต่าสุดแล้ว ขณะที่ backlog ปัจจุบันยังสูงถึง 1 แสนล้านบาท โดยในปี 2565 จะมีการเริ่มงานใหญ่หลายโครงการ ได้แก่ งาน O&M มอเตอร์เวย์ M6 & M81, สนามบินอู่ตะเภา, และทางคู่เด่นชัยฯ, 2) มี catalyst จากโครงการสายสีม่วงใต้ ซึ่งจะประกาศผลผู้ชนะในวันนี้ (1 ก.พ.) และลงนามสัญญาในไตรมาส 2/65 และ 3) ปัจจุบันเทรดที่ 2565 PER 19.7x (-0.5SD below 3-yr average PER)

อย่างไรก็ตามแนะนำ ซื้อ STEC และ CK จากพื้นฐานมั่นคง มีงานในมือ (Backlog) ที่รองรับการสร้างรายได้ การทำกำไรที่ผ่านมาทำได้ค่อนข้างดี ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 18.00 บาท และ 25.00 บาท ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top