นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจโลก และมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ
นางจอร์เจียวาเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อฉีดวัคซีน และเพิ่มการป้องกันโรคโควิด-19 โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวควบคู่ไปกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางหลายแห่งกำลังวางแผนหรือดำเนินการไปแล้วนั้น จะช่วยผ่อนคลายปัญหาติดขัดของห่วงโซ่อุปทานและรับมือกับเงินเฟ้อได้
นางจอร์เจียวากล่าวในงานที่จัดโดยสำนักข่าววอชิงตัน โพสต์เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) ว่า “นโยบายการแพร่ระบาดคือนโยบายเศรษฐกิจ ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีนี้ และภาวะชะงักงันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น”
นางจอร์เจียวายอมรับว่า เงินเฟ้อได้กลายเป็น “ปัญหาต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าที่คาด” และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับผลกระทบของการบริโภคที่ชะลอตัว และผลกระทบของสภาพภูมิอากาศที่มีต่อราคาอาหาร
นางจอร์เจียวาระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนใน 86 ประเทศยังไม่ถึงเป้าหมายของการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 40% ของประชากรภายในปี 2564 และอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่เพียง 5% ในประเทศรายได้ต่ำ เมื่อเทียบกับ 70% ในประเทศที่ร่ำรวย
“ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นปัญหา เพราะสิ่งที่เราทำก็คือ เรายังคงรักษาแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ” นางจอร์เจียวากล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ, จีน และเศรษฐกิจโลก และระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, เงินเฟ้อ, ภาวะชะงักงันด้านอุปทาน และแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 65)
Tags: IMF, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, คริสตาลินา จอร์เจียวา, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจโลก