ม็อบ Truck Power ปักหลักค้างคืนหน้ากระทรวงพลังงาน เรียกร้องรัฐบาลลดภาษีดีเซล

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมรวมพลคาร์ม็อบ (Truck Power) จะปักหลักชุมนุมค้างคืนบริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน เพื่อขับไล่นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ออกจากตำแหน่ง

“วันนี้ค้างคืนแน่นอน ผมบอกชัดๆ ประกาศว่า นายสุพัฒนพงษ์ ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว เพราะเข้ามาดูแลเรื่องหลังงานและเศรษฐกิจ แต่ราคาสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน ไม่มีกึ๋น”

 นายอภิชาติ กล่าว

โดยวันนี้จะมีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศนำรถขนส่งในรูปแบบต่างๆ ทั้งรถขนส่งสินค้า รถโดยสาร มาร่วมชุมนุม ซึ่งรูปแบบนั้นจะเป็นไปตามขอบเขตของกฎหมาย โดยมีการปราศรัยถึงโครงสร้างราคาน้ำมันที่ทำให้เห็นว่ามีความไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน

“เราจัดกิจกรรมตามขอบเขตของกฎหมาย ..เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์จากจำนวนสมาชิกที่มีอยู่กว่า 4 แสนคัน เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แค่ให้รู้ว่าถ้าระบบขนส่งหยุดชะงักไป อะไรจะเกิดขึ้น”

 นายอภิชาติ กล่าว

ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่ภาครัฐปฏิบัติต่อผู้ประกอบการขนส่งเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะก่อนหน้านี้เคยให้การช่วยเหลือกับสายการบินด้วยการลดราคาภาษีสรรพสามิตน้ำมันจาก 7.44 บาท/ลิตร เหลือ 20 สตางค์/ลิตร แต่ราคาน้ำมันดีเซลมีโครงการสร้างภาษีสรรพสามิตอยู่ 5.99 บาท/ลิตร ยังไม่เคยมีการปรับลดลงเลย ซึ่งเป็นความไม่ชอบธรรม ราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงอยู่ที่ลิตรละ 21 บาทเศษ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาพืชพลังงานที่มีราคาแพงผสมเข้าไป

ทั้งนี้ สภาพการจราจรบริเวณด้านหน้ากระทรวงพลังงานถนนวิภาวดีรังสิตมีการนำรถบรรทุก รถบัสโดยสารมาจอดในช่องคู่ขนานส่งผลให้ต้องปิดการจราจรไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ส่วนหนึ่งได้เดินทางมารวมตัวกันที่ กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือค่าน้ำมันด้วยเช่นกัน

นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังรับหนังสือเรียกร้องจากทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ลดราคาน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 25 บาทเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการขนส่ง โดยทางสหพันธ์ฯ ขอให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิต ลดค่าการตลาด และหยุดผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลชั่วคราวเนื่องจากราคาไบโอดีเซลมีราคาสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลมีราคาสูงตามไปด้วย​          

นายสมบูรณ์ ชี้แจงว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในหลายๆ ประเทศ มีการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจาก supply มีไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น เกิดความตึงเครียดทางการเมืองในหลายพื้นที่ในโลกที่หนุนให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นอีก รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา และอีกสาเหตุสำคัญคือ ประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดิบกว่า 80-90% ของความต้องการ ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทยจึงขึ้นลงสอดคล้องกับราคาตลาดโลก​          

“ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ ประเทศไทยเจอหลายสถานการณ์เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน จึงทำให้การแก้ไขสถานการณ์เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ดำเนินหลายมาตรการในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งลดค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กระทรวงพลังงาน ได้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร มีการขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้ลดค่าการตลาด มีการปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีการปรับสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมัน B7 B10 และ B20 ให้เหลือขั้นต่ำร้อยละ 5 โดยปริมาตร หรือเหลือน้ำมันดีเซลเกรดเดียวคือ B5 และก็ยังได้เตรียมมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวสำหรับการปรับสัดส่วนผสมไบโอดีเซลให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่กระทรวงพลังงาน ขอยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเตรียมหามาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 65)

Tags: , , , , , ,
Back to Top