นายกฯ ห่วงสถานการณ์สินค้าแพงจากผลกระทบสงครามยูเครน-สั่งหามาตรการช่วยผู้ใช้เบนซิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า หากสถานการณ์เลวร้ายยืดเยื้อต่อไป ผลกระทบที่ต้องรับมือเป็นสิ่งแรก คือเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนต่างๆ มีหลายอย่างที่มีเศรษฐกิจห่วงโซ่เดียวกัน โดยวานนี้ได้เรียกประชุมกับรองนายกรัฐมนตรีโดยเร่งด่วน เพื่อให้เตรียมมาตรการเหล่านี้ตามวิกฤตการณ์และสมมุติฐานที่วางไว้ 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งวันนี้อยู่ในขั้นที่ 1 ส่วนขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องไปดำเนินการเตรียมมาตรการไว้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องสถานการณ์ไข่แพงจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์แล้ว ซึ่งเป็นปัญหาจากราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น ซึ่งต้องไปดูว่าสาเหตุที่ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นเป็นเพราะอะไร แต่ขอร้องอย่าฉวยโอกาสในขณะนี้ และรัฐบาลก็พร้อมให้หามาตรการเข้าไปช่วยเหลือ แต่บางเรื่องก็ต้องให้เป็นไปตามกลไกตลาด สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจและความร่วมมือกัน และได้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนไปแล้ว

“ผมเป็นห่วงเรื่องราคาสินค้าที่แพงขึ้น นั้นคือผลกระทบในขณะนี้ ถึงแม้จะไม่มีสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนก็ตาม เพราะฉะนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกคน”

นายกฯ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หามาตรการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งอาจจะช่วยเหลือเป็นเฉพาะกลุ่ม หรืออาชีพต่างๆ เพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณไปช่วยเหลือได้ทุกกลุ่ม ทั้งนี้แนวทางการช่วยเหลือเรื่องราคาน้ำมัน รัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด ทั้งการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งก็ต้องยอมรับการสูญเสียการจัดเก็บรายได้

“ขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง อย่าเสนอข่าวย้อนแย้งกันเลย ซึ่งคณะทำงานก็พิจารณาเรื่องภาษีอื่นๆ ไปทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าทำได้ก็ทำให้หมด ซึ่งรัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่หรือ อุปสรรคต่างๆ เยอะแยะไปหมด ต้องแก้ปัญหาไปให้ได้ ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีปัญหา”

นายกฯ ระบุ

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมด่วนเมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดูเรื่องการค้า กระทรวงการต่างประเทศดูแลคนไทย

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประเมินผลกระทบความผันผวนในตลาดเงินโลก ราคาสินค้า พลังงาน จะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพการเงินในประเทศยังแข้มแข็ง เนื่องจากไทยพึ่งพาสถาบันการเงินในประเทศเป็นหลัก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top