นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี จิสติกส์ (B) เปิดเผยว่า บริษัท อีโคลด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ B กับ บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) เตรียมลงทุนซื้อเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) กว่า 2,200 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขุดคริปโทเคอร์เรนซีสูง
“จุดแข็งของเราคือ เรื่องของต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่มีราคาถูก มีความเสถียรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีเทคโนโลยีในการบริหารจัดการที่ดี จึงทำให้สร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในระดับต่ำ”
นายปัญญา กล่าว
การลงทุนขุดคริปโทฯในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันระดับราคาของสกุลเงินขุดคริปโทคอร์เรนซีอยู่ในระยะพักตัว จึงมีโอกาสที่จะมีมูลค่าเพิ่มนับจากนี้ไป ประกอบกับเทคโนโลยีที่บริษัท อีโคลด์ จำกัด เลือกใช้งานมีประสิทธิภาพและมีอัตราการประหยัดพลังงานในระดับที่สูง
ส่วนด้านพลังงานบริษัท อีโคลด์ จำกัด มีพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถจ่ายไฟฟ้าในต้นทุนที่ต่ำและมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในระดับต่ำ ทำให้ธุรกิจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท มีศักยภาพในการสร้างกำไรที่สูงในระยะเวลา 1-2 ปีนับจากปัจจุบัน
“เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มของการเติบโตของมูลค่าตลาดขุดคริปโทฯ จะเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ในการลงทุนที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มความสามารถในการทำกำไรของกลุ่ม B นอกเหนือจากการลงทุนในธุรกิจ Smart Logistic และ Smart Utilities ที่ถือเป็นแผนยุทธศาสตร์หลักของ B”
นายปัญญา กล่าว
ทั้งนี้ อีโคลด์ เป็นบริษัทร่วมทุนของ B กับ NRF จากเดิมบริษัทร่วมทุนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในดำเนินธุรกิจด้านขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) แต่ล่าสุดได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอเพิ่มเติมวัตถุประสงค์เพิ่มเติมเข้าไปคือ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งครอบคลุมถึงการขุด ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 65)
Tags: Cryptocurrency, NRF, บี จิสติกส์, ปัญญา บุญญาภิวัฒน์, หุ้นไทย, เหมืองคริปโทเคอร์เรนซี, เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์