วิจัยสหรัฐชี้ยอดดับจากโควิดอาจสูงถึง 18 ล้านคน มากกว่ารายงาน 3 เท่า

ผลวิจัยของสหรัฐซึ่งตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์แลนเซ็ตระบุว่า ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อาจสูงกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่รายงานอย่างเป็นทางการถึง 3 เท่า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลวิจัยดังกล่าวซึ่งดำเนินการโดยสถาบันชี้วัดและประเมินสุขภาพ (IHME) แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตันเปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีแรกที่โรคโควิด-19 ระบาด อาจมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากถึง 18.2 ล้านคน ซึ่งคณะนักวิจัยระบุว่า การขาดการตรวจหาเชื้อ และการเก็บข้อมูลตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่น่าเชื่อถือนั้นอธิบายถึงความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นของตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการซึ่งประมาณไว้ที่เพียง 5.9 ล้านคน

ทั้งนี้ ข้อมูลวิจัยมุ่งศึกษาถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่นอกเหนือประมาณการ และประเมินถึงขอบเขตความรุนแรงของการแพร่ระบาด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้เปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 กับข้อมูลการเสียชีวิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นายคริสโตเฟอร์ เจ.แอล. เมอเรย์ ผู้อำนวยการสถาบัน IHME เปิดเผยว่า “เมื่อมองภาพรวมทั่วโลก ตัวเลขดังกล่าวเป็นอัตราการเสียชีวิตที่น่าจะมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคไข้หวัดสเปนระบาด โดยโควิดทำให้อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกพุ่งขึ้น 17% ขณะที่ไข้หวัดสเปนซึ่งระบาดในปี 2461 คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 50 ล้านคน”

นอกจากนี้ ข้อมูลยังระบุว่า แม้ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นนั้นจะมาจากโรคโควิด-19 โดยตรง แต่การเสียชีวิตบางส่วนมาจากปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลจากการขาดการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงไม่ได้รับบริการที่จำเป็นในช่วงที่มีการแพร่ระบาด หรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายหรือใช้สารเสพติด

ทางด้านรองศาสตราจารย์ไห่ตง หวัง จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันกล่าวว่า “ข้อมูลวิจัยจากหลายประเทศ รวมถึงสวีเดนและเนเธอร์แลนด์ระบุว่า โควิด-19 เป็นสาเหตุโดยตรงของการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การทำความเข้าใจกับยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากโรคระบาดนั้นมีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มี.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top