ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่พากันหลีกเลี่ยงที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนในขณะนี้ อันเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการที่จีนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย, การใช้มาตรการที่เข้มงวดอย่างมากในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และความไม่แน่นอนที่ว่าจีนจะยุติการควบคุมภาคธุรกิจเมื่อใด ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้ได้ทำให้นักลงทุนไม่กล้าแม้แต่จะเข้าช้อนซื้อหุ้น หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงไปถึง 75% จากระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้
ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กซึ่งรวมถึงผู้บริหารของบริษัท Mirabaud & Cie ต่างก็ลังเลที่จะเข้าช้อนซื้อหุ้น แม้มูลค่าตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปีก็ตาม และแม้ว่าจะมีนักลงทุนบางรายวางแผนที่จะถือหุ้นที่ซื้อล็อตปัจจุบันเอาไว้ แต่ก็มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่วางแผนจะซื้อหุ้นเพิ่ม
“เรายังคงหลีกเลี่ยงตลาดหุ้นจีน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงมาก บริษัท Mirabaud เทขายหุ้นจีนในปีที่แล้วและยังไม่มีแผนที่จะกลับเข้าซื้ออีกจนถึงขณะนี้” จอห์น พลาสซาร์ด ผู้อำนวยการของ Mirabaud กล่าว
ดัชนี Nasdaq Golden Dragon Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนที่รวมถึงอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, ไป่ตู้ และเน็ตอีสนั้น ร่วงลง 11.7% ในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ส่วนในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีทรุดตัวลง 29% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2556
การร่วงลงของดัชนี Nasdaq Golden Dragon Index เกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า รัสเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือด้านการทหารจากจีน ท่ามกลางการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
เจียน ฉี คอร์เตซี ผู้จัดการกองทุนของบริษัทจีเอเอ็ม อินเวสต์เมนท์กล่าวว่า นักลงทุนกังวลว่า การที่นานาประเทศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะส่งผลกระทบลามไปถึงจีน ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อตลาดหุ้นจีน
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนยังได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีน และมณฑลจี้หลินซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของจีน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นจีน