AOT,AAV ดีดขึ้น-เทรดคึกคักนำกลุ่มท่องเที่ยวรับยกเลิก RT-PCR ตั้งแต่ 1 เม.ย.

ราคาหุ้น AOT และ AAV ดีดขึ้นนำกลุ่มท่องเที่ยวด้วยมูลค่าการซื้อขายคึกคัก ตอบรับโอกาสการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังจากภาครัฐยกเลิกเงื่อนไขการตรวจ RT-PCR เพื่อหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.65

โดยเมื่อเวลา 10.41 น. นำโดย AOT ปรับขึ้น 0.75% หรือ เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 67.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 972.86 ล้านบาท

  • AAV ปรับขึ้น 3.15% หรือเพิ่มขึ้น 0.08 บาท มาที่ 2.62 บาท มุลค่าซื้อขาย 18.66 ล้านบาท
  • BA ปรับขึ้น 3.96% หรือเพิ่มขึ้น 10.40 บาท มาที่ 10.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 12.69 ล้านบาท
  • CENTEL ปรับบขึ้น 1.24% หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 40.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 20.29 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที (KTBST) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากรายงานข่าวว่า ต่างชาติเดินทางเข้าไทยทะลักหลังรัฐยกเลิก RT-PCR เมื่อวันที่ 1 เม.ย.65 จากมติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทั้งประเภท Test&Go, Sandbox และ Alternative Quarantine ให้ยกเลิกการตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศ พร้อมปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึงประเทศไทยและระหว่างอยู่ในประเทศ กรณี Test & Go, แซนด์บ็อกซ์ ต้องได้รับการตรวจ RT-PCR ในวันแรกเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จากนักท่องเที่ยวการตรวจ Self-ATK อีกครั้งในวันที่ 5 ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยทะลักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

KTBST มองเป็นบวกสำหรับกลุ่ม Tourism (Overweight) โดยการยกเลิกการตวรจ RT-PCR ในวันที่ 1 เม.ย. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหลังหลายประเทศมีการผ่อนคลายการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัวทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยเยอะมาก และหลังจากนี้จะมีการเร่งปรับให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 ยิ่งจะเป็นตัวช่วยปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ง่ายมากขึ้น คล้ายกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

โดยหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่จะได้รับผลบวกจากข่าวดังกล่าวจากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR

สำหรับหุ้นกลุ่ม Tourism เรายังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” ชอบ CENTEL (ซื้อ/เป้า 45.00 บาท) เพราะจะเห็นการฟื้นตัวได้ดีทั้งโรงแรมและอาหาร และ MINT (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) จากยุโรปที่ฟื้นตัวเร็วกว่าไทย ขณะที่จากประเด็นนี้ ERW (ซื้อ/เป้า 3.50 บาท) ได้ประโยชน์สูงสุด

รวมทั้งจะได้ผลบวกต่อ AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) และ AAV (ถือ/เป้า 2.80 บาท) ที่จำนวนผู้โดยสารจะมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ยังชอบหุ้น SPA (ซื้อ/เป้า 8.20 บาท) โดยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากที่เริ่มเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ ภูเก็ต sandbox และจะได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าไทย โดยปัจจุบันกลับมาเปิดให้บริการร้นแล้วกว่า 80% ของสาขารวม และมี Utilization Rate สูงกว่า 40% ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะช่วยหนุนให้ Utilization Rate สูงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top