สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทำเนียบขาวจัดบรรยายสรุปร่วมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) เพื่อหารือในประเด็นที่ว่า ปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนนั้นจะสร้างความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐอย่างมหาศาล พร้อมผลักดันให้สภาคองเกรสผ่านการอนุมัติงบประมาณ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนภาคการผลิต
นายไบรอัน ดีส ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NEC) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “จากการคาดการณ์เป็นไปได้ว่า การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์อาจส่งผลให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2564 ลดลงไปหลายจุดเปอร์เซ็นต์”
ภายในการบรรยายดังกล่าว นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ, นางแคทลีน ฮิกส์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ร่วมกันหารือถึงความจำเป็นเร่งด่วนในด้านการลงทุนผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ รวมถึงการระดมทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะช่วยปกป้องเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐ
ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ยืดเยื้อนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยบีบให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับลดจำนวนการผลิตลง ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการจึงเรียกร้องให้ภาครัฐลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากประเทศอื่น ๆ
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า “ปัญหาซัพพลายเซมิคอนดักเตอร์ที่ชะงักงันนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างมหาศาล มากกว่าปัญหาชิปขาดแคลนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเผชิญในขณะนี้ และจะบ่อนทำลายขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยี รวมถึงแสนยานุภาพทางการทหารในการต่อกับศัตรูในเวทีโลก”
อนึ่ง วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปมูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ครั้งแรกในเดือนมิ.ย. รวมถึงผ่านงบประมาณ 1.9 แสนล้านดอลลาร์ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคการวิจัยและเทคโนโลยีของสหรัฐ เพื่อต่อกรกับจีนที่กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน
ด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างงบประมาณดังกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. โดยนายดีสแสดงความหวังว่า ทั้งสองสภาจะแต่งตั้งผู้แทนเจรจาในสัปดาห์นี้ เพื่อเร่งกระบวนการสรุปร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการโดยเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 65)
Tags: ชิปขาดแคลน, ทำเนียบขาว, สหรัฐ, เซมิคอนดักเตอร์, เศรษฐกิจสหรัฐ