นครเซี่ยงไฮ้พยายามเร่งแก้ปัญหาการแจกจ่ายอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้กับประชาชน หลังมีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 เข้าสู่วันที่ 11 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จำกัดจำนวนพนักงานส่งของเหลือเพียง 11,000 คน ซึ่งคอยให้บริการส่งของแก่ประชาชนในเมืองที่มีอยู่ราว 26 ล้านคน ส่งผลให้พนักงานต้องรับภาระหนักขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรยากาศภายในเซี่ยงไฮ้เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทาง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข, อาสาสมัคร, พนักงานส่งของ และ ผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเท่านั้นที่เดินทางสัญจรได้
นายเฉิน ตง รองนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ กล่าวในช่วงแถลงข่าววันนี้ (7 เม.ย.) ว่า “เซี่ยงไฮ้มีปริมาณอาหารสำรองหลัก ๆ เช่น ข้าวและเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เพียงพอ แต่ปัญหานั้นอยู่ที่การแจกจ่ายสิ่งของและการขนส่งสินค้าถึงผู้รับปลายทาง เนื่องจากมาตรการควบคุมโรค”
นายตงยังกล่าวว่า ทางการเซี่ยงไฮ้จะพยายามหาทางให้ตลาดขายส่งสินค้าและร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการ รวมถึงอนุญาตให้มีพนักงานส่งของออกไปนอกพื้นที่ล็อกดาวน์ได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะยังดำเนินการกวาดล้างผู้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า
“เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ประชาชนได้ร้องเรียน เราจึงได้จัดประชุมเมื่อคืนนี้เพื่อเร่งแก้ปัญหาและหาทางออก”
ขณะเดียวกัน ประชาชนในเซี่ยงไฮ้ต่างเริ่มกังวลเกี่ยวกับอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงสิ่งของที่ได้รับอย่างนมผงสำหรับทารก
นับจนถึงขณะนี้ เซี่ยงไฮ้รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในท้องถิ่นเพิ่มอีกเกือบ 20,000 รายเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ขณะที่ยังคงดำเนินการตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้วหลายรอบ โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบนั้น 98% ไม่แสดงอาการของโรค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 65)
Tags: ล็อกดาวน์, เครื่องยังชีพ, เซี่ยงไฮ้, โควิด-19