หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาคตอบรับผลประชุมเฟด,น้ำมัน-ถ่านหินพุ่ง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาคและสหรัฐ ตอบรับเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% ในการประชุมครั้งถัดไป อีกทั้งราคาน้ำมันและถ่านหินดีดขึ้นหลังยุโรปเตรียมค่ำบาตรรัสเซีย ให้แนวรับ 1,645-1,650 จุด และแนวต้าน 1,660-1,668 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นสหรัฐ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด และยังส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% ในการประชุมอีก 2 ครั้งถัดไป

รวมถึงราคาน้ำมันดิบก็สูงขึ้น 5% และถ่านหินพุ่งขึ้น 10.2% มาอยู่ที่ 360 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากยุโรปเตรียมค่ำบาตรรัสเซียอย่างจริงจัง ด้วยการปรับลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจนไปถึงขั้นยกเลิกนำเข้าภายใน 6 เดือน ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก็น่าจะได้อานิสงส์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นมาด้วย

ให้แนวรับไว้ที่ 1,645-1,650 จุด และแนวต้าน 1,660-1,668 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,061.06 จุด พุ่งขึ้น 932.27 จุด หรือ +2.81%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,300.17 จุด เพิ่มขึ้น 124.69 จุด หรือ +2.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,964.86 จุด พุ่งขึ้น 401.10 จุด หรือ +3.19%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,163.15 จุด เพิ่มขึ้น 293.63 จุด หรือ +1.41% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,044.85 จุด ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.07% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (5 พ.ค.) เนื่องในวันเด็ก
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 พ.ค.) ที่ระดับ 1,652.29 จุด ลดลง 15.15 จุด (-0.91%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,978.58 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พ.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(5 พ.ค.) เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 107.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 พ.ค.) อยู่ที่ 26.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.10 แข็งค่าจากดอลลาร์อ่อน หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด
  • “ภูเก็ต” เตรียมพร้อม เข้าสู่โรคประจำถิ่นหลังป่วยโควิด-เสียชีวิตเข้าเกณฑ์ เผย 10 จังหวัดติดโควิดสูงสุด กทม.ยังพุ่งสูง จับตา มหาสารคาม-นนทบุรี ขณะที่ วัคซีนโควิด-19 mRNA สัญชาติไทย ผลิตล็อตแรกในไทยแล้ว ยื่น อย.ขอทดสอบ ในคนระยะ 1-2 คาดขอขึ้นทะเบียนวัคซีนปลายปี 65 ด้าน “ฟอร์บส์” จัดอันดับ “อยุธยา” 1 ใน 50 เมืองทั่วโลก ควรเดินทางเยือนหลังโควิด-19
  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการลดอัตราและการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่นำเข้ามาทั้งคัน ที่เข้าร่วมมาตรการตั้งแต่ 20-40%
  • “ยุทธพงศ์” ชง กมธ.สภาฯ สอบประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี ลั่นต้องเอาคนผิดมาติดคุกให้ได้ ชี้ถ้าไม่มีอะไร “บิ๊กตู่” คงไม่ถอย “ไชยา” สงสัยทำไมถึงเลื่อนลงนามสัญญา เรียกหน่วยงานแจงกราวรูด “พิเชษฐ” ขึงขังโหวตสวน ขืนดันทุรังเซ็นสัญญากับ “วงษ์สยามฯ” ไม่กลัวถูก พปชร.ขับหันไปซบพรรคเล็กได้ พท.เป่าหู 3 ป.ระแวงกันหนัก แซะ “ลุงตู่” อยู่ได้เพราะกล้วย “วันชัย” อวยไส้แตก “ลุงป้อม” เหมาะสุดนายกฯ คนนอก “พิชัย” ขนทีม ศก.พท.ถกทูตสหรัฐฯ
  • แค่ข้ามคืนราคาผักพุ่ง ผักชีพรวดอีก 10 บาท แตะก.ก. 140 ต้นหอม-แตงกวาขยับขึ้น 5 บาท หลังอากาศร้อนสลับพายุฝนทำให้ผลผลิตเสียหายบางส่วน สมาคมเลี้ยงไก่เจ็บหนัก ต้นทุนเพิ่มแต่ขยับราคาขึ้นไม่ได้เหตุยอดขายยังตก ด้านประมงสงขลาโอดดีเซลพุ่ง นักท่องเที่ยวฮวบ เรือประมงกว่าร้อยละ 80 ต้องจอดนิ่ง คิวรถตู้โคราชวอนรัฐช่วยเหลือเหมือนวินจยย. เผยผู้โดยสารลดไปกว่าร้อยละ 80 สภาอุตฯ คาดราคาปุ๋ย-ดีเซล พุ่งดึงราคาอาหารขยับตาม โรงตึ๊งปราจีนบุรี สำรองเงินรับมือเปิดเทอมกว่า 150 ล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้

  • KCC (ทรีนีตี้) ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท/หุ้น ประกอบธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย และปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เข้าเทรด mai วันแรกวันนี้ หลังเสนอขายหุ้น IPO 160 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.70 บาท เงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO จะนำไปลงทุนซื้อ NPL ชำระเงินกู้และตราสารหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
  • BIS (ทรีนีตี้) ให้ราคาเป้าหมาย 7.61 บาท ย่อยดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือ อุปกรณ์
    และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง เข้าเทรด mai วันแรกวันนี้ เสนอขาย IPO 314 บ้านหุ้น ที่ 6.00 บาท ประมาณการรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ปี 2564-2566 (CAGR) ราว 23.3% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 50.8% ต่อปี เติบโตในอัตราเร่งที่สูงกว่าการเติบโตของรายได้
  • SAWAD (เมย์แบงก์) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72 บาท/หุ้น มองบวกดีลแลกเปลี่ยนหุ้น SAWAD จะมีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้น 72% ใน SCAP จาก 65% คาดว่า SCAP เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 65-66 ตามการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งและต้นทุนสินเชื่อที่ต่ำ ราคาหุ้น SAWAD น่าสนใจเนื่องจากซื้อขายที่ P/E ปี 65 ที่ 14 เท่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ที่ 20-30%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top