ราคาบิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์เช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขเงินฟ้อของสหรัฐสูงกว่าคาด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มทรุดตัวลงทดสอบระดับ 25,000 ดอลลาร์ หลังจากที่หลุดจากระดับ 30,000 ดอลลาร์ไปแล้ว
ณ เวลา 08.24 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 4.70% แตะที่ระดับ 29,449 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524 แต่ดัชนี CPI เดือนเม.ย.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.1%
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า นักลงทุนราว 40% ที่ถือครองบิตคอยน์ได้ประสบภาวะขาดทุน หลังจากบิตคอยน์มีมูลค่าลดลงเกือบ 55% จากที่เคยพุ่งแตะ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนเม.ย. พบว่า วอลเล็ตบิตคอยน์ราว 15.5% ประสบภาวะขาดทุน หลังบิตคอยน์ดิ่งลงสู่ระดับ 31,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงตามดัชนี Nasdaq และสวนทางความเชื่อที่ว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกวูบหายไปถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 1 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ซึ่งจะฉุดสภาพคล่องในตลาด
ทั้งนี้ ข้อมูลของ Coinmarketcap.com ซึ่งรวบรวมราคาสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 สกุลจากตลาดซื้อขายทั่วโลก พบว่า มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดดิ่งลงสู่ระดับ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพุธที่ 11 พ.ค. จากระดับ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
ก่อนหน้านี้ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลพุ่งแตะระดับ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 65)
Tags: Crypto, Cryptocurrency, ธนาคารกลางสหรัฐ, บิตคอยน์, เฟด