หุ้น PLUS ปิดเช้าอยู่ที่ 6.05 บาท สูงขึ้น 34.44% จากราคา IPO ที่ 4.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.55 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,225.72 ล้านบาท จากราคาเปิด 8.00 บาท ราคาสูงสุด 8.15 บาท ราคาต่ำสุด 5.75 บาท
บล.ทิสโก้ ประมาณการเบื้องต้น บมจ.โรแยล พลัส (PLUS) มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 65 ที่ 5 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกันแ ที่ P/E 24 เท่า)
รายได้ของบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มลูกค้าหลักอย่างสหรัฐฯ (จะเห็นได้จากผลประกอบการในไตรมาส 1/65 ที่มีกำไร 46.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.5% YoY เนื่องคำสั่งซื้อช่วงปลายปี 64 และความต้องการของลูกค้าในทวีปอเมริกาเพิ่มมากขึ้น) และยังมีตัวช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติมจากการรุกตลาดใหม่ในเอเชีย เช่นเดียวกับอัตรากำไรที่คาดจะสูงขึ้นตามอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น (จากคำสั่งซื้อที่มากขึ้น) และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่คาดว่าจะคลี่คลายในปีนี้
PLUS ดำเนินธุรกิจโดยการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่ม โดยรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้าแต่ใช้สูตรการผลิตของ PLUS (OEM) (มีสัดส่วนรายได้ในปี 2021 ที่ 91.3%) และผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง (สัดส่วนรายได้ในปี 2021 ที่ 8.1%) ได้แก่ โคโค่รอยัล (Coco Royal), นิต้า (Nita), โคโค่ คอฟ (Coco Coff), มาบุ (Mabu) และซีบูม (C-Boom)
บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิต โดยการเพิ่มสายการผลิต Aseptic สำหรับขวด PET (400 ขวดต่อนาที ซึ่งจะทำให้ PLUS มีกำลังการผลิตเต็มที่เพิ่มขึ้นประมาณ 76.6 ล้านขวดต่อปี คาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (คาดว่าจะสามารถลดค่าไฟฟ้าลง 30% และป้องกันไฟฟ้าดับในช่วงกลางวัน คาดใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 35.3 ล้านบาท ) ในบริเวณพื้นที่โรงงานเดิมที่สาขา 2 อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 65)
Tags: PLUS, หุ้นไทย, โรแยล พลัส