นางลาเอล เบรนาร์ด รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ๆ และการที่เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้ สะท้อนให้เห็นว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในการกำกับดูแลสินทรัพย์เหล่านี้
“การทรุดตัวลงของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า เราควรจะเพิ่มขีดความสามารถในการใช้กฎระเบียบเพื่อให้ทันต่อวิวัฒนาการของระบบการเงินในอนาคต” นางเบรนาร์ดแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.)
นางเบรนาร์ดระบุว่า การที่เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST และเหรียญเทเธอร์ ร่วงลงจนหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐนั้น ถือเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน
ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เฟดได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) และเปิดให้สาธารณชนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ดี นับจนถึงขณะนี้เฟดยังไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะออกสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัล แม้นางเบรนาร์ดกล่าวว่า การออกสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของสหรัฐในการสร้างมาตรฐานระดับโลก และสร้างความเชื่อมั่นว่าดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นสกุลเงินหลักในระบบการชำระเงินทั่วโลก
“สกุลเงิน CBDC ของสหรัฐอาจเป็นหนึ่งในแนวทางที่มีศักยภาพในการสร้างความเชื่อมั่นว่า ประชาชนทั่วโลกที่ใช้สกุลเงินดอลลาร์จะสามารถไว้วางใจในความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของดอลลาร์ในการทำธุรกรรมและทำธุรกิจในระบบการเงินดิจิทัล หากเฟดผลักดันให้มีการออก CBDC ก็จะเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการพัฒนาฟีเจอร์ในอนาคต ซึ่งจะสามารถขจัดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ เช่นการจำกัดจำนวน CBDC ที่ผู้บริโภคถือครองหรือใช้ในการโอน”
นางเบรนาร์ด กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 65)
Tags: CBDC, Cryptocurrency, Fed, คริปโทเคอร์เรนซี, ธนาคารกลางสหรัฐ, ลาเอล เบรนาร์ด, สินทรัพย์ดิจิทัล, เฟด