ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันนี้ (30 พ.ค.) เนื่องในวัน Memorial Day โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 31 พ.ค.
สำหรับภาวะการซื้อขายตลอดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 6.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 6.6% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 6.8% โดยได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยรายงานระบุว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี หากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในสัปดาห์ที่แล้วยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐได้แตะระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ ดัชนีราคาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลง หลังจากพุ่งแตะระดับ 6.6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดีจะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด หรือ Beige Book ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันของพฤหัสบดีตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นสหรัฐ