กลุ่มโรงแรมบวก 0.65% ได้ดีกว่าดัชนี SET บวก 0.18% โดยโบรกเกอร์คาดในช่วงครึ่งหลังปี 65 จะเห็นนักท่องเที่ยวต่างขาติเข้ามามากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายต่อเนื่อง และน่าจะได้รับผลดีจากกรณีทางการจีนคลายล็อกการเดินทางออกนอกประเทศ
เมื่อเวลา 11.54 น.
- DUSIT ปรับขึ้น 2.05% หรือ เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มาที่ 9.95 บาท
- CENTEL ปรับขึ้น 0.62% หรือ เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มาที่ 40.75 บาท
- ERW ปรับขึ้น 1.09% หรือ เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มาที่ 3.72 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 8 ล้านคน ซึ่งจำนวน 6 ล้านคนจะเดินทางเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจนถึงขณะนี้ เราพบว่าสถานการณ์ COVID-19 ในทำเลต่าง ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลายประเทศได้ยกเลิกข้อกำหนดในการคุม COVID-19 ไปแล้ว และเดินหน้าสู่การปรับเป็นโรคประจำถิ่น ในขณะเดียวกัน เราเชื่อว่าหากจีนผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศเพิ่มเติมจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนประมาณการของเรา
สำหรับธุรกิจโรงแรม เราคาดว่าผลกระทบด้านลบจากต้นทุนที่เพิ่มค่อนข้างจำกัด เนื่องจากต้นทุนพนักงานยังเพิ่มขึ้นในระดับที่บริหารจัดการได้ ในขณะที่ต้นทุนสาธารณูปโภคคิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนรวม ขณะที่เรามองว่าธุรกิจอาหารจะได้รับผลกระทบด้านลบมากกว่า เพราะต้นทุนวัตถุดิบโดยตรงมีบทบาทสำคัญ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของต้นทุนทั้งหมด
ในบรรดาหุ้นกลุ่มโรงแรมที่เราศึกษาอยู่ คาดว่า บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า (CENTEL) จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพราะเงินเฟ้อมากที่สุด รองลงมาคือ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)
เพื่อจับโอกาสการลงทุนและสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในระยะต่อไป เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566F และคงน้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight โดยหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ได้แก่ SHR (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท), MINT (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท) และ ERW (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท)
โดยเราปรับเพิ่มคำแนะนำ ERW จากเดิม ถือ เป็น ซื้อ และเพิ่มเข้ามาใน Top-pick ของเราด้วยรอบนี้ เพราะคาดว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้อานิสงส์เต็มที่จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งหลังปี 65
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 65)
Tags: หุ้นกลุ่มโรงแรม, หุ้นไทย, เปิดประเทศ