รมว.คลัง มองกนง.เสียงแตกยังไม่ใช่สัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ กนง.ส่วนใหญ่ยังเป็นห่วงและให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่

“คิดว่า กนง. ได้ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว และเชื่อว่าเขามีการติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ยังบอกไม่ได้ว่าครั้งนี้มติไม่เป็นเอกฉันท์ แล้วการประชุมครั้งหน้าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังต้องติดตามสถานการณ์ ณ เวลานั้น ๆ อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญคือจะต้องดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก”

นายอาคม กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะเร็วหรือช้าขึ้นกับ กนง.ที่จะมีการติดตามสถานการณ์ต่างๆ รอบด้าน โดยเฉพาะทิศทางดอกเบี้ยของต่างประเทศเป็นสำคัญ เพราะว่าหากมีส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยมาก ก็จะทำให้เกิดปัญหาเงินทุนไหลออก ก็มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเหมือนกัน

สำหรับการที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเล็กน้อย รมว.คลัง ยอมรับว่า อาจมีผลกระทบกับการส่งออกและเศรษฐกิจไทยบ้าง แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าการส่งออกของไทยจะยังไปได้ดี โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายส่งออกขยายตัวได้ 5-8% แต่ได้หารือกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ว่าให้ภาคเอกชนพยายามเร่งเพื่อให้การส่งออกขยายตัวได้ 10% เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3.5%

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวดีขึ้นมาก หลังจากการเปิดประเทศจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลมาจากเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งในเรื่องนี้ทางกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ใช้กลไกของตัวเองดูแลอยู่ ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ลดให้ 5 บาท/ลิตร เป็นเวลา 2 เดือน จนถึงวันที่ 20 ก.ค. 65 ยังบอกไม่ได้ว่าหลังครบกำหนดเวลาแล้วจะดำเนินการอย่างไร คงต้องรอพิจารณาสถานการณ์ ณ ขณะนั้นว่าจะลดภาษีต่อได้หรือไม่ โดยต้องดูภาพรวมการจัดเก็บรายได้ด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top