เงินเยนร่วงลงแตะระดับ 135.60 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 24 ปี เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
การดำเนินนโยบายที่สวนทางกันของเฟดและ BOJ นั้น ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองประเทศปรับตัวกว้างขึ้น
ทั้งนี้ เงินเยนทรุดตัวลงนับตั้งแต่สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ยูจิ ไซโตะ หัวหน้าแผนกอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทเครดิต อากริโคล คอร์ปอเรชัน แอนด์ อินเวสต์เมนต์ แบงก์ กล่าวว่า “ขณะนี้นโยบายการเงินของสหรัฐและญี่ปุ่นอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม จึงทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง และเราคาดว่าเงินเยนจะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกเสียจากว่าธนาคารของทั้งสองประเทศจะดำเนินนโยบายที่เป็นไปในทางเดียวกัน”
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 65)
Tags: ค่าเงิน, ธนาคารกลางสหรัฐ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เงินเยน, เฟด