นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เตือนว่า เงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้าอย่างมากและจำเป็นต้องมีการใช้นโยบายรับมือขั้นเด็ดขาด ดังนั้น RBA จึงตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเป็นพิเศษในช่วงต้นเดือนนี้
ทั้งนี้ นายโลว์ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในคืนวันอังคาร (14 มิ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค มีแนวโน้มแตะระดับ 7% ภายในสิ้นปีนี้ จากระดับ 5.1% ในปัจจุบัน
ตัวเลข CPI ดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5.9% อย่างมาก และจะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2533 โดยสูงเหนือกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวของ RBA ที่ 2-3% อย่างมาก
“ตัวเลขเงินเฟ้อสูงมาก เราจำเป็นต้องดึงกลับสู่กรอบเป้าหมาย 2-3% ดังนั้นแบงก์ชาติออสเตรเลียจึงต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อคุมเข้มนโยบายการเงินให้หวนคืนสู่ระดับปกติ โดยดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% เป็นอัตราที่เหมาะสม แต่เราจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ 2.5% เร็วเพียงใดและจะไปถึง 2.5% จริงหรือไม่ เราจะตัดสินโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ”
นายโลว์กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 0.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้สองเท่า พร้อมกันนี้นายโลว์ยังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม
ขณะนี้ บรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.50% ในเดือนก.ค.และส.ค. และอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงถึง 3.5% ภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 65)
Tags: RBA, ธนาคารกลางออสเตรเลีย, ฟิลิป โลว์, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจออสเตรเลีย